ปฏิบัติธรรม ณ ศูนย์วิปัสสนา กรรมฐาน ธรรมกมลา ปราจีนบุรี

ศูนย์วิปัสสนากรรมฐาน ธรรมกมลา ปราจีนบุรี

Dhamma Kamala Viipassana Meditation

กม.166+900 บ้านเนินผาสุก ต.ดงขี้เหล็ก อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี 25000
Tel. 089-782-9180, 087-483-6605
Email: dhamma.kamala@gmail.com
Website: Dhamma Kamala Prachinburi

Office hours:  8.30 am – 12 pm, 1 pm – 5 pm

Map:  https://goo.gl/maps/oHQRHZKi8DeXqqSZA

ศึกษาข้อมูลก่อนลงทะเบียน ระยะเวลาคือสิ่งสำคัญ

หากสนใจ อยากดูข้อมูลเกี่ยวกับศูนย์ฯ ธรรมกมลา คลิกที่นี่ได้เลย Dhamma Kamala ในนี้มีข้อมูลการสมัคร ลงทะเบียนทุกอย่าง  แต่ก่อนอื่น…..

เราต้องรู้ว่า  หากใครยังไม่เคยไปปฏิบัติธรรมที่นี่ ถือเป็นศิษย์ใหม่ และศิษย์ใหม่ทุกคนจะต้องเริ่ม คอร์สแรกเป็นคอร์ส 10 วัน หากใครผ่านคอร์ส 10 วันนี้ไปเรียบร้อย ถือว่าเป็นศิษย์เก่า ก็จะสามารถเข้าร่วมคอร์สอื่น ๆ ที่หลากหลากกว่าเดิม มีจำนวนวันให้เลือกเพิ่มมากขึ้น เช่น 1, 3, 7, หรือ 10 วัน

ตอนที่บุ๊งคิดว่าจะไปปฏิบัติธรรมที่นี่  สิ่งที่ติดอยู่อย่างเดียวคือจำนวนวัน เนื่องจาก 10 วันที่ว่านี่คือนับเฉพาะวันที่ปฏิบัติธรรมล้วน ๆ แต่หากเรานับวันเดินทางด้วย  ก็บวกเพิ่มไปอีก ขาไปครึ่งวัน ขากลับครึ่งวัน เบ็ดเสร็จก็ 11-12 วัน  ดังนั้น เราต้องเตรียมตัวจัดการเรื่องงานและลูกไว้ให้พร้อม แต่พอมานั่งคำนวณดู  ช่วงเวลานี้เหมาะเจาะกับบุ๊งที่สุดแล้วเพราะเป็นเวลาที่เด็กปิดเทอม หากหลังจากนี้เด็กเปิดเทอมคงจะทิ้งลูกไปสิบวันลำบาก  ก็ตัดสินใจลงทะเบียนไปปฏิบัติที่ จ.ปราจีนบุรี

ที่เลือกไปศูนย์ฯ นี้เพราะเพื่อนสมัยเรียนของบุ๊งชื่อว่า หนุ่ย มาชวนไปด้วยกัน แต่หนุ่ยไปในฐานะ ธรรมบริกร หรือผู้ให้บริการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่มาปฏิบัติธรรม ณ ศูนย์ฯ นั้น ๆ  กล่าวคือถือเป็นธรรมทานอย่างนึง

เดินทางอย่างไร?

ตอนแรกที่ลงทะเบียนไปคือ “เต็ม” อยู่นะคะ  แต่ลงทะเบียนไปก่อน  หากมีคนยกเลิกหรือสละสิทธิเราก็จะได้สิทธินั้นแทน  ตอนที่ลงชื่อไปบุ๊งก็คิดนะว่า หากเรามีบุญมากพอ คงได้ไป  ปรากฏว่าวันรุ่งขึ้นได้รับ email แจ้งว่าบุ๊งได้รับสิทธิไปปฏิบัติธรรม (แสดงว่ามีคนไปไม่ได้)  ให้บุ๊งตอบยืนยันกลับไป พร้อมแจ้งว่าจะเดินทางอย่างไร  คือเราสามารถขับรถไปเอง  จาก กรุงเทพฯ หรือ นนทบุรีขับก็ 2.5 hrs  แต่บุ๊งเลือกไปกับรถบัสของทางศูนย์ฯ ซึ่งมีค่าใช้จ่าย 500 บาท ไป-กลับ จุดขึ้นรถคือ วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน

อย่างบุ๊งไปคอร์สวันที่ 19 – 30 Apr 2017  ก็หมายถึงเดินทางบ่ายวันที่ 19 เม.ย. เพื่อไปถึงศูนย์ฯ ช่วงบ่ายสาม  แต่หากเราเดินทางไปเองก็ต้องไปรายงานตัวก่อน 17.00 น.  วันกลับคือรถบัสออกจากศูนย์ประมาณ 8 am ของวันที่ 30 เม.ย.  เดินทางถึงวัดพระศรีฯ ช่วง 10 โมงกว่า ๆ

ศูนย์ ธรรมกมลา ปราจีนบุรี

วันเดินทางออกจากวันพระศรีฯ บ่ายโมง ถึงศูนย์ฯ ธรรมกมลา จ.ปราจีนบุรี  ตอนบ่ายสามกว่า ๆ ดูภายในบริเวณศูนย์กันหน่อย  ต้นไม้สีเขียวเยอะอยู่

การลงทะเบียน

นำบัตรประชาชนมาด้วย เพื่อลงทะเบียน เค้าจะแยกโต๊ะศิษย์ใหม่ ศิษย์เก่า  แยกเรือนพักให้ด้วย  กำหนดไว้เรียบร้อยว่าใครนอนห้องไหน

การเตรียมตัว เอาอะไรไปบ้าง?

ด้วยความที่ไม่เคยไปปฏิบัติธรรมมาก่อน แถมไปเยอะวันขนาดนี้  เรื่องเสื้อผ้า ของใช้ต่าง ๆ เราก็อยากรู้สิ ว่าต้องใช้อะไรบ้าง  รายการด้านล่างนี้คือสิ่งที่บุ๊ง “ส่วนตัว” คิดว่า จำเป็น ควรเอาไป  แต่ทั้งนี้ ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับการใช้ชีวิตประจำวันของแต่ละคนด้วยนะคะ

สิ่งจำเป็น ควรเอาไป

• เสื้อผ้า:  เสื้อมีแขน (ห้ามแขนกุด) กางเกงขาเลยเข่า แบบไหนก็ได้ที่ใส่สบาย
  จำนวนที่เอาไปน่ะเหรอ…..ไม่ต้องแบกไปเยอะค่ะ บุ๊งเอาไปแบบวันละชุดเลย
  ดังนั้น กระเป๋าใบใหญ่มาก  แต่พอไปถึงปรากฏว่า ก็ซักอยู่ดี เพราะกางเกงบางตัว
  ใส่แล้วนั่งไม่สบาย เรานั่งสมาธิกันเยอะมาก ตลอดทั้งวัน ถ้านั่งแล้วอึดอัดไม่ควร
  เอาไปอย่างแรง  บุ๊งเลยซักกางเกงตัวที่ใส่แล้วรู้สึกว่านั่งสบายเพื่อใส่ซ้ำ  เราจะซัก
  เองก็ได้ หรือส่งซักก็ได้ มีบริการซักผ้าที่ศูนย์ฯ แต่ไม่ได้รีดให้ ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายคิด
  ตามจำนวนชิ้นที่ส่งซัก  บุ๊งว่าซักเองสะดวกมาก เราแค่เอาผงซักฟอกไป หรือไปซื้อ
  ที่นู่นก็ได้นะ เค้ามีขาย ไม้แขวนเสื้อมีพร้อมบริการในห้อง
  ส่วนตัวบุ๊งขนเสื้อยืดสีขาวยกโหลไปเลย อิอิ ไม่อมความร้อน ใส่แล้วสบายตัวดี
• รองเท้า:  รองเท้าแตะ ฟองน้ำ อะไรใส่สบายก็จัดไป แบบเปียกน้ำได้ยิ่งดี เผื่อฝนตก แล้วก็
  ควรเอารองเท้าสลิปเปอร์ที่ใส่เดินในห้องไปด้วยก็ดีนะคะ  แต่ถ้าใครเดินเท้าเปล่า
  ไม่มีปัญหา ไม่รำคาญฝุ่น ก็จัดไป
• กระบอกน้ำ:   เอาแบบเก็บความเย็นไปได้ก็จะดีมาก  คืออากาศมันร้อนอะ  เอากดน้ำเย็นเก็บ
  ไว้ดื่มในห้อง  หรือใครดื่มกาแฟร้อน จะเอาแบบเก็บความร้อนไปด้วยก็ได้ ที่
  ศูนย์ฯ มีครบ ทั้งน้ำร้อน น้ำเย็น น้ำขิง และสารพัดเครื่องดื่ม ไม่ว่าจะเป็น ชา
  กาแฟ (instant) นมสด นมถั่วเหลือง โกโก้ ฯลฯ
• แป้งเย็น: โฮะ ๆ ๆ ๆ อันนี้จริงจัง ซีเรียสกันเลย  บุ๊งโปะแป้งเย็นตลอดเวลา หน้าขาวตลอด
  นะคะขอบอก 5555  ทาทั้งหน้าและตัวเลยแหละ
• อาบน้ำ:  นำไปให้ครบ ไม่ว่าจะเป็น แชมพู ครีมนวด สบู่ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน dentral floss
  อะไรก็ตามที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน  และเอาขวดใหญ่หรือกลางไปก็ได้ สำหรับ
  คนอื่นบุ๊งไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร  แต่บุ๊งไปช่วงหน้าร้อน อากาศร้อนเป็นเรื่องปกติ ถึง
  มีพัดลมในห้องนอน ก็ยังร้อนอยู่ดี  ดังนั้นบุ๊งอาบน้ำวันละ 4 ครั้งเลยแหละ เรียก
  ได้ว่าอาบทุกครั้งที่มีโอกาสพัก อิอิ ใช้สบู่ แชมพู ครีมนวดเกลี้ยง และไปซื้อเพิ่ม
  เอาจากที่นู่นอีกนะ ขอบอก
• ผ้าอนามัย:  สาว ๆ เตรียมไปด้วยค่ะ จะมีหรือไม่มี ใช่ช่วงที่มาหรือไม่ก็เตรียมไปเถอะ  ที่
  ศูนย์ฯ มีขายด้วยนะ  แต่อาจจะไม่ใช่แบบที่เราใช้ประจำ  บุ๊งแนะนำของโซฟี
  ที่มันเย็น ๆ อะค่ะ ดี๊ดี ?
• โลชั่น:   เอาไปเถอะ แต่เลือกแบบทั่ว ๆ ไปที่กลิ่นน้ำหอมไม่รุนแรงมาก บุ๊งอาบน้ำบ่อย
  โลชั่นคือสิ่งจำเป็น ไม่งั้นผิวจะแห้งมากกกกกกก แนะนำ Jergens ใช้ดีงามสุด ๆ
• ผ้าเช็ดตัว:   เป็นไอเท็มที่ใช้งานบ่อยมากกกกกก ตากแป๊บเดียวก็แห้งค่ะ 
• ผงซักฟอก:  บุ๊งไม่ได้เอาไป สุดท้ายก็ซื้อ เอาซองเล็ก ๆ ไปเผื่อซักอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ได้
• แว่นสายตา:  สำหรับคนที่สายตาสั้นแล้วใส่คอนแทคเลนส์ (เช่น บุ๊งเอง) ควรถอดเลนส์เก็บ
  ไว้เลยแล้วใส่แว่นสายตาแทน  เวลาเรานั่งสมาธิก็ถอดแว่นวางไว้ใกล้ต้วเอา
• กุญแจคล้อง:  เอาไว้คล้องล็อกเกอร์ (แต่ถ้าลืมเอาไป เค้าก็มีให้ยืม)
• ผ้าเช็ดจาน:   ควรเอาแบบเช็ดแล้วแห้งเร็วไป แบบที่ซับน้ำได้ดี ผืนใหญ่หน่อยแบบคลุม
  จานหลุมได้ยิ่งดี เพราะพอเราล้างจานเสร็จ ก็จะวางจานไว้ที่โต๊ะ คลุมผ้าไว้
  กันฝุ่นและแมลง

สิ่งที่บุ๊งคิดว่าไม่ควรนำไป

• นาฬิกา:  บอกก่อนว่าเค้าไม่ได้ห้าม เรานำไปได้ แต่ส่วนตัวคิดว่าเอานาฬิกาไป เป็นการ
  แย่งสมาธิเราอย่างมาก เพราะเราจะคอยส่องแต่นาฬิกา กี่โมงแล้ว ผ่านไปกี่นาที
  แล้ว  เมื่อไหร่จะหมดชั่วโมง บลา ๆ ๆ  บุ๊งเองไม่ได้เอาไป รู้สึกดี๊ดี ไม่พะวงจริง ๆ
• หนังสือ:  ทางศูนย์ฯ เค้าห้ามไม่ให้พูด อ่าน เขียน อยู่แล้ว  แต่การแอบเอาหนังสือไปเพื่อ
  อ่านช่วงเวลาว่างเป็นส่ิงที่ไม่ควรทำ เพราะจะทำให้เราเสียสมาธิ ไม่โฟกัสกับการ
  ปฏิบัติธรรม
• อาหาร:  การแอบนำเอาอาหารไปกินในห้องนอน นอกจากจะเรียกมด แมลง สัตว์ต่าง ๆ
  ยังจะทำให้เราไม่สามารถรักษาศีล 8 ได้ (เพราะแอบกินตอนกลางคืน) การนั่ง
  ปฏิบัติธรรมที่ศูนย์ฯ ธรรมกมลา  เราจะได้ทานอาหาร 2 มื้อคือ เช้า และ เที่ยง
  ตอนเย็นดื่มน้ำปานะ  แต่สำหรับศิษย์ใหม่ทางศูนย์ฯ อนุญาตให้กินพวกผลไม้
  ขนมปัง แครกเกอร์ได้   บุ๊งเองกินแค่ 2 มื้อคือ เช้า เที่ยง ตอนเย็นดื่มน้ำปานะ
  ซึ่งเค้ามีน้ำแข็งให้ตอนเย็น อันนี้กรี๊ด รีบไปตักรัว ๆ 5555  บอกเลยว่าตอนกลาง
  คืนไม่หิวแต่อย่างใด  ยิ่งวันหลัง ๆ ตอนเช้าตื่นมา ไม่หิวอีกต่างหาก 
• เครื่องประดับ:  ไม่ต้องเอาไปเลยทุกสิ่งอย่าง ไปอยู่ที่นู่น ความสวยงาม วัตถุนิยมทั้งหลาย
  ตัดทิ้งให้หมด ไม่มีใครสนใจว่าคุณจะกระเซอะกระเซิงแค่ไหน (รึป่าว? 555)
  อย่างน้อยก็บุ๊งคนนึงแหละ ที่ไปอยู่นู่นแล้วไม่สนใจว่าใครจะทำอะไร หน้า
  ตา ผมเผ้าเป็นไง ไม่สนเลย

กฎ ระเบียบต่าง ๆ

• โทรศัพท์มือถือ:  ยึดค่าาาา เค้ายึดเก็บเข้าตู้มีล็อคอย่างดี
• ของมีค่า:  กระเป๋าเงินก็จะถูกเก็บ (แยกกับมือถือ) อย่างดีในล็อคเกอร์เดียวกัน
• ห้ามพูด:  อันนี้คือกฏเหล็ก  ห้ามพูดคุย ส่งสายตา ภาษามือ หรือใด ๆ ระหว่างผู้ปฏิบัติ
  ด้วยกัน  แต่เราสามารถพูดคุยแบบกระซิบกับธรรมบริกรได้ ในกรณีที่มีปัญหา
  เกี่ยวกับความเป็นอยู่ และสามารถคุย สอบถามอาจารย์ได้ เมื่อมีข้อสงสัย
  เรื่องการปฏิบัติธรรม
• เวลา:  เราควรต้องรักษาเวลาให้ตรงตามตาราง  เค้าจะมีระฆังเคาะบอกก่อนที่จะถึงเวลาเดิน
  ไปปฏิบัติที่ห้องปฏิบัติรวม (meditation hall) ซึ่งอาจารย์ผู้สอนจะรอให้ครบทุกคนก่อน
  ถึงจะเริ่ม  ดังนั้นหากเราไปช้า นั่นหมายถึงทุกคนจะรอเราอยู่คนเดียว

ค่าใช้จ่าย

ไม่มีค่ะ  เราไปปฏิบัติธรรมได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย (ยกเว้นค่ารถ) แต่….ศูนย์ฯ ธรรมกมลาอยู่ได้ด้วยเงินบริจาคจากศิษย์เก่าหรือผู้มีน้ำใจรุ่นก่อน ๆ ดังนั้นก่อนเราจะออกจากศูนย์ฯ ก็จะมีการบริจาคปัจจัยตามศรัทธา  อันนี้แอบกระซิบว่า เราสามารถใช้บัตรเครดิตจ่ายได้นะคะ มีใบอนุโมทนาให้เรียบร้อย  บุ๊งว่าสะดวกดี เพราะเราไม่ต้องพกเงินสดไปเยอะ

ห้องพัก

ที่นี่ทุกอย่างแยกชาย – หญิงชัดเจน แม้กระทั่งทางเดินก็มีอะไรมากั้น  แน่นอนว่าห้องพักแยกชาย – หญิง อยู่คนละโซน บุ๊งมีรูปของฝั่งเรือนพักหญิงมาฝาก แต่ละคนจะพักเป็น “ห้องเดี่ยว” มีห้องน้ำส่วนตัวในห้อง

บุ๊งพูดได้เต็มปากว่าศูนย์ฯ ธรรมกมลา จัดเตรียมห้องพักและ facilities ต่าง ๆ ไว้พร้อมมาก  เหมาะสำหรับการอยู่คนเดียว ในห้องมีครบทุกสิ่งที่จำเป็นในการดำรงชีวิต  ทุกอย่างแยกเป็นของใช้สำหรับห้องใครห้องมัน

ภายในห้องนอนมี เตียง ฟูกบาง หมอน ผ้าห่ม ร่ม อาสนะ (สำหรับปฏิบัติธรรมในห้องพัก) ชุดจานหลุมกินข้าว พัดลม โต๊ะ เก้าอี้ ราวแขวน ไม้แขวนเสื้อ ไม้กวาด ไม้ถูพื้น ถังน้ำ

ห้องน้ำ มีฝักบัว ชักโครก สายชำระ (โอ้ว เย่) อ่างล้างหน้า ตะกร้าใส่อุปกรณ์ทำความสะอาด พรมเช็ดเท้า

 อาหารการกิน

อาหารเป็นอาหารมังสวิรัติ  มี 2 มื้อคือ มื้อเช้าและมื้อเที่ยง ส่วนตอนเย็นมี น้ำปานะ เพราะคนที่มาปฏิบัติธรรมที่นี่ ควรถือศีล 8 แต่ไม่ต้องกังวลไปนะคะ  หากใครคิดว่า อดมื้อเย็นไม่ได้แน่ ๆ เพราะหิว  ถ้าเป็นศิษย์ใหม่  ทางศูนย์ฯ ให้เรากินขนมปัง นมได้ตอน 5 pm แต่บุ๊งบอกได้เลยว่าพอถึงเวลาจริง ๆ ก็ไม่หิว อย่างบุ๊งนี่กิน 2 มื้อตลอด

อาหารที่นี่อร่อยนะ อิอิ ได้กินผักเยอะดี อย่างผักสดก็ไม่ใช่ผักกาดหอม แต่เป็นผักสลัดอย่างดี เช่น กรีนโอ๊ค เรดโอ๊ค ผักกาดคอสแล้วก็บัตเตอร์เฮด เวลาบุ๊งกินก็เน้นผัก อาหารไม่มัน แป้งแทบไม่กิน  ที่ทำแบบนี้เพราะเรานั่งสมาธิทั้งวัน นั่ง ๆ ๆ ๆ ๆ อย่างเดียว  ไม่ค่อยได้ทำกิจกรรมอะไร  พอกินเยอะแล้วสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวบุ๊งคือ ลม หรือ gas ทำให้ปวดท้อง กินน้อย ก็ไม่ได้หิวแต่อย่างใด  เน้นผัก ผลไม้ค่ะ ดี๊ดี

โต๊ะอาหาร  เรานั่งตามเลขที่ห้องพัก  ต่างคนต่างนั่ง ต่างคนต่างกิน  ไม่ต้องมองหน้ากัน ไม่คุยกัน กินเสร็จก็นำจานไปล้างที่ซิงค์ (มีเพียบ) จากนั้นนำกลับมาวางที่โต๊ะกินข้าวของเราเอง หรือนำกลับไปไว้ที่ห้องก็ได้

น้ำดื่ม

ตู้กดน้ำเย็น น้ำร้อน มีอยู่ตามจุดต่าง ๆ ไม่ขาดแคลนน้ำแน่นอน  ในห้องทานอาหารมีน้ำขิงที่ต้มไว้ตลอดวัน มาตักเติมได้  ส่วนเครื่องดื่มประเภทชงก็มีให้บริการ เรียกว่าครบถ้วน  ขาดแค่น้ำแข็ง ซึ่งจะมีแค่ตอนดื่มน้ำปานะเท่านั้น

ตารางเวลา

ระฆังเคาะครั้งแรก ตีสี่ (4 am) เพื่อปลุกให้เราตื่น อาบน้ำเตรียมตัวไปนั่งสมาธิ ตอน 4.30 am นั่นหมายถึงตารางเวลาเริ่มตั้งแต่ 4.30 am – 9.00 pm เนื่องจากความเงียบคือ key และห้องทุกห้องเป็นบานเกลด เวลาเราทำอะไรในห้อง  ก็จะได้ยินถึงห้องข้าง ๆ ด้วยเพราะเสียงมันลอดผ่านไปได้ หากเราจะอาบน้ำ ก็อาบได้เฉพาะเวลาที่เค้ากำหนดให้เท่านั้น ก็คือช่วงพัก ตามในรูปด้านล่าง

การนั่งสมาธิ

ปฏิบัติธรรม  ที่ธรรม กมลา เรานั่งสมาธิกันอย่างเดียว ไม่มีการเดินจงกรม หรือปฏิบัติธรรมวิธีอื่น  โดยอาจารย์จะเปิดเทปเสียงอาจารย์โกเอ็นก้า พูดเป็นภาษาอังกฤษ และมีเสียงคำแปลเป็นภาษาไทย สำหรับเรื่องการสอนวิธีการปฏิบัติธรรม บุ๊งจะไม่พูดถึงเพราะบุ๊งเองเพิ่งไปแค่ครั้งเดียว ความรู้มีไม่มาก  สิ่งที่เราจะได้เรียนหลัก ๆ คือ

“ศีล สมาธิ ปัญญา”

ทางศูนย์ฯ กำหนดว่า เราจะต้องไปนั่งปฏิบัติธรรมในห้องรวมพร้อมเพรียงกันทั้งหมด 3 เวลา ได้แก่

8 – 9 am

2.30 – 3.30 pm

6 – 7 pm

นอกจากนั้นเวลาที่ต้องอยู่ในห้องปฏิบัติรวมคือช่วงฟังธรรมบรรยาย 7 – 8.15 pm เราจะได้รับเบอร์อาสนะที่ใช้นั่งสมาธิ ที่นั่งใคร ที่นั่งมัน แยกกันไปเลย  เค้าจัดมาให้พร้อม เบาะใหญ่ เบาะรองนั่ง ที่รองเข่า ครบ หรือใครมีปัญหาหลัง ขา สามารถรีเควสท์ขอเก้าอี้ หรือ พนักพิงได้

ก่อนที่จะไปนั่งวิปัสสนา บุ๊งก็คิดนะ จะไหวมะ ทำได้ป่าวเพราะปกติเป็นคนทำอะไรเร็ว  เพื่อนมักบอกว่าบุ๊งไฮเปอร์ สมาธิสั้น 5555 จากคนที่ทำนู่น ทำนี่ตลอดเวลา ให้ไปนั่งทั้งวัน  จะสำเร็จมั้ยนั่นนี่  ปรากฏว่าพออยู่ที่นู่น บรรยากาศรอบตัว ตารางเวลา และปัจจัยต่าง ๆ ส่งเสริมให้เราสามารถนั่งสมาธิได้สำเร็จ  นี่ถ้าเมื่อก่อนมีใครมาบอกว่าบุ๊งจะสามารถนั่งสมาธิแบบไม่ขยับเลย ทั้งตัว ขา แขน มือ เท้า เป็นเวลา 1 ชั่วโมงเต็ม  บุ๊งคงไม่เชื่อ  แต่ตอนนี้พูดได้เลยว่า ทำได้ค่ะ ไม่ยาก  ถ้าบุ๊งทำได้ ทุกคนทำได้แน่นอน 55555

ที่เขียนบล๊อกมาทั้งหมดนี้คืออยากเอาไว้เป็นข้อมูลให้กับคนที่สนใจอยากไปวิปัสสนากรรมฐาน และอยากรู้ว่า เค้าทำอะไรกัน ยังไง ต้องเตรียมตัวอย่างไร  นี่คือสิ่งที่บุ๊งนอนคิดช่วงเวลาพักตอนอยู่ที่นู่น ว่าจะกลับมาเขียนแบบนี้ ๆ ๆ อิอิ จริง ๆ มีข้อมูลอะไรมากกว่านี้อีก  หากใครอยากรู้อะไรเพิ่มเติม ถามคำถามมาได้เลยนะคะ บุ๊งยินดีตอบเท่าที่จะสามารถตอบได้  นี่คือรูป Meditation Hall หรือห้องปฏิบัติรวมค่ะ

สุดท้าย บุ๊งอยากสนับสนุนว่า อย่างน้อยสักครั้งหนึ่งในขีวิต ไปวิปัสสนากันนะคะ  มันดีต่อตัวเรา และจิตใจจริง ๆ