ด้วยความโชคดีของบุ๊ง มีเพื่อนดี๊ดี มาชวนไปกินร้าน Iron Chef Table
บอกว่าจะเป็นเจ้ามือให้ งั้นก็รีบจัด ไม่รีรอใด ๆ ทั้งสิ้น นัดวันได้ก็ไปกันเลยค่ะ
อยากลองมานานแล้ว จะได้รู้กันว่าอร่อยแค่ไหน
Iron Chef Table
The Taste ทองหล่อ กรุงเทพฯ
Tel. 0-2712-5473-4
Opening hours: 11 am – 2 pm
5 pm – 11 pm
ประตูเปิดเข้าร้านหนักมากค่ะ 5555 เวลาบุ๊งดันประตูไม่ไป แต่ตัวบุ๊งขยับแทน
The Clinic (440 B)
เครื่องดื่มค็อกเทลจัดมาแบบนี้ และพนักงานจะมาผสมให้ที่โต๊ะ
มีส่วนผสมของ Ketel One Vodka นำไป infused กับมะกรูด มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ
แก้วนี้ไม่แรงมากค่ะ ดื่มเบา ๆ สบาย ๆ
ขนมปังมีเสิร์ฟทุกโต๊ะ พร้อมเนยสด
ขนมปังโทสต์จนผิวกรอบนิสสสส ๆ
From Farm To Table (320 B)
(By Chef Ian)
จานนี้เสิร์ฟมาน่ารักเชียว แอบทึ่งว่าเค้าแกะเปลือกไข่ยังไงคงสภาพแบบนี้
ด้านในเป็นไข่คน ไข่ปลาคาร์เวียร์ แพนเซ็ตตา ล่างสุดเป็นเห็ด
พอยกมาปุ๊บ พนักงานก็เอามูส Hollandaise ที่ทำจากไข่แดงมาบีบใส่ไข่แต่ละฟอง
ได้รสเปรี้ยวจากซอสฮอลันเดส์ ที่มีส่วนผสมของน้ำส้มสายชู
เวลากินใช้ช้อนตักให้ถึงก้นเปลือกไข่ ตักให้ถึงเห็ดคือแบบกลิ่นเห็ดหอมมาก
สลัดไม่โดนใจเท่าไหร่ค่ะ เป็นผักโขม
น้ำสลัดให้มาไม่เพียงพอกับปริมาณผัก เลยทำให้จืด
Foie Gras & Scallop Salad (1,150 B)
(By Chef Ian)
จานนี้จัด presentation มาเหมือนไข่มุกเลย
ฟัวกราส์และหอยเชลล์ตัวใหญ่ เสิร์ฟบนมันบด ราดด้วยซอสเกรวี
จุดแดง ๆ สามจุดบนตับห่านคือสตรอเบอร์รี่เจล
ด้านล่างตรงจานมีซอสเบอร์รี่มาให้กินกับตับห่านด้วย
ฟัวกราส์ทอดมาแบบด้านในสุกกำลังดี ด้านนอกเกรียมนิดเดียว
อยากให้เกรียมกว่านี้ (บุ๊งชอบเปลือกกรอบหน่อย ๆ)
ส่วน scallop ดีงาม ชิ้นใหญ่ เนื้อแน่น สุกกำลังดี
สลัดผักที่มากับจานนี้มีสตรอเบอร์รี่สดฝานบาง ๆ มาด้วย
สลัดไม่โดนใจอีกแล้วง่ะ
Botox Duck (550 B)
(By Chef Ian)
Concept ของจานนี้คือการ Botox
เลยเสิร์ฟมาในถาดแบบที่โรงพยาบาลใช้
มีเข็มฉีดยาที่ใส่ซอสราสพเบอร์รี่ไว้ เวลาจะทานก็เอาเข็มจิ้ม ๆให้ทั่วเนื้อเป็ด
ส่วนซอสที่ราดบนเนื้อเป็ดคือซอสบลูเบอร์รี่
เป็ดทอดมาแบบกรอบนอกนุ่มใน เนื้อบางชิ้นแอบแห้งไปนิสสส
สลัดจานนี้มาเป็นผักร็อคเก็ต พร้อมซอสเบอร์รี่ ค่อยถูกใจหน่อย
ขอเพิ่มบัลซามิคอีกนิด จะดีงามมาก
Pork Tomahawk (650 B)
(By Chef Ian)
ชื่อเมนูโทมาฮอค ปกติเห็นมีแต่เนื้อ แต่จานนี้เป็นหมูบุ๊งเลยลองสั่งมาชิมดู
บุ๊งชอบบบบ อิอิ เป็นเนื้อหมู (pork loin) เอามาแผ่ให้แบนชุบแป้งทอดจนกรอบนอก นุ่มใน
ราดด้วยซอสมะเขือเทศกึ่ง ๆ ซอสพิซซ่า ด้านบนเป็นชีสสสสสสสสส
8 O’Clock Berries Short Cake (650 B)
(By Chef Art)
Concept ของเมนูนี้คือ ตื่นมาตอนเช้า อาบน้ำ แปรงฟัน
ในถาดมีอุปกรณ์พร้อม บุ๊งว่าเก๋ดีค่ะ
ตรงกลางที่เป็นสีเหลือง ทำเลียนแบบฟองน้ำ
เป็นเค้ก sponge ถั่วพิสตาชิโอ สลับชั้นกับครีมสด เวลาจะกินก็เอาซอสเบอร์รี่
ที่อยู่ในหลอดยาสีฟันมาบีบใส่
แก้วที่เป็นน้ำสีเขียวคือ Virgin Mojito
โมฮิโต้ (ไม่มีแอลกอฮอล์) ที่มีกลิ่นมินท์เหมือนน้ำยาบ้วนปาก ก็สดชื่นดี
ส่วนก้อนสี่เหลี่ยมสีแดงคือเลียนแบบสบู่ มีฟองด้านบน
มันก็คือเจลลี่ราสพเบอร์รี่นั่นเอง
ครีมสีขาวในถ้วย เป็นชีสมาคาโปเนตีจนฟูผสมวนิลาบีนส์
เอามาปาดบนเค้ก อร่อยยยยยยยย
*** แปรงสีฟันให้มาประดับถาดเฉย ๆ ไม่ต้องใช้นะคะ หุหุ ***
ค่าเสียหายตามนี้ค่ะ มากัน 2 คน
ขอสักรูปปปปป
(จริง ๆ ถ่ายมาหลายรูป โฮะ ๆ ๆ ๆ ๆ)
จบแล้วววกับประสบการณ์กินร้านที่แต่ละเมนูครีเอทโดยเชฟชื่อดัง
ในเมนูจะระบุไว้เลยว่า จานไหนเป็นของเชฟคนไหนคิดขึ้นมา
มานั่งดูรายการอาหารอีกที บุ๊งสั่งของเชฟเอียนเกือบหมดเลย
ยกเว้นจานขนมหวานที่เป็นของเชฟอาร์ท หุหุ
บรรยากาศร้านดี เสียอย่างเดียวร้านเป็นครัวเปิด ทำให้มีกลิ่นอาหารติดเสื้อผ้าออกมาด้วยค่ะ
ส่วนบริการดีงาม พนักงานเอาใจใส่ลูกค้า
เมนูแบ่งเป็นตามประเภทเนื้อสัตว์ ไข่ และขนมหวานค่ะ
ขอบคุณที่ติดตามค่า