Fresh Strawberry Cake เค้กสตรอเบอร์รี่ หน้ากรอบ วันนี้บุ๊งมีสูตรเค้กอย่างง่ายมาฝากกันอีกแล้ว เวลาบุ๊งบอกว่าทำง่ายก็คือทำง่ายจริง ๆ นะ แบบใช้มือคนไม่ต้องออกแรง ไม่ต้องใช้เครื่องตี
Simpler than ever
วิธีทำ เค้กสตรอเบอร์รี่ หน้ากรอบ สูตรนี้ ใช้เพียงแค่อ่างผสม ตะกร้อมือ หรือถ้าใครไม่มี จะใช้ไม้พายหรือส้อมคนก็ยังได้ แต่ถ้าให้แนะนำคือใช้ตะกร้อมือจะดีกว่า เวลาคนส่วนผสมของเหลวกับน้ำตาลจะได้เข้ากันดี เวลาที่ใช้ทำจริง ๆ ก็ไม่นานค่ะ อย่างมากไม่เกิน 10-15 นาที แต่ที่จะใช้เวลาหน่อยคือช่วงเวลาอบ ซึ่งขึ้นอยู่กับขนาดเค้กที่ทำ ถ้าอบเป็นเค้กก้อนใหญ่ก้อนเดียว ก็จะใช้เวลานานกว่าอบเค้กก้อนเล็กหรือแบบถ้วยนั่นเอง
Any berries would do
เค้กแบบนี้ สามารถปรับเปลี่ยนไปใส่ผลไม้ เบอร์รี่สด อะไรก็ได้ตามต้องการ ไม่จำเป็นต้องใช้แต่สตรอวเบอร์รี่อย่างเดียว ซึ่งบุ๊งก็ทำแบบใส่ทั้ง strawberries และ blueberries จะใส่เป็น เชอร์รี่ blackcurrant แบล็คเบอร์รี่ หรือ ราสพเบอร์รี่ แทนก็ได้ ถ้าใครอยากใส่ผลไม้เพิ่มจากในสูตรก็สามารถทได้ แต่ต้องกะปริมาณให้พอเหมาะ ไม่อย่างนั้นผลไม้มากเกินไป อาจจะหนักและลงไปนอนอยู่ที่ก้นเค้ก ทำให้เค้กด้านล่างแฉะ สุกยากค่ะ
Crispy on top
สูตรนี้อบออกมาแล้ว หน้าเค้กจะกรอบนิด ๆ โดยเฉพาะเมื่อตอนอบเสร็จใหม่ ๆ แต่หากเก็บไว้ข้ามวัน ความกรอบก็จะลดลงเป็นเรื่องปกติ จริง ๆ เราไม่จำเป็นต้องโรยหน้าด้วยน้ำตาลไอซิ่งก็ได้ค่ะ เค้กมีความหวานในตัวอยู่แล้ว แต่ที่บุ๊งโรยก็เพื่อการถ่ายรูปโดยเฉพาะ และตัว icing sugar ถ้าอากาศร้อน น้ำตาลละลาย จะทำให้หน้าเค้กกรอบน้อยลงเช่นกัน
Dense but moist
เนื้อเค้กเป็นสไตล์เค้กฝรั่งที่ไม่ตกแต่งหน้า เนื้อแน่นแต่ฉ่ำ หมายถึงเนื้อเค้กแน่นกว่าเค้ก sponge หรือ ชิฟฟอน แต่ไม่แน่นเท่าเนื้อเค้กเนยสด สูตรนี้เป็นสูตรใส่น้ำมัน ดังนั้นเนื้อเค้กที่ได้จะฉ่ำนาน ยิ่งแช่ตู้เย็น 1 คืนยิ่งฉ่ำขึ้น แต่ถ้าใครอดใจไม่ไหว กินวันแรกที่อบเสร็จเลย บุ๊งว่าหน้าเค้กกรอบอร่อยกว่าเก็บไว้ในตู้เย็นค่ะ
Buttermilk
สำหรับใครที่ไม่มี buttermilk (บัทเทอร์มิลค์) ที่บ้าน หาซื้อไม่ได้ ไม่ต้องกังวลค่ะ เพราะบุ๊งก็ไม่มีเหมือนกัน อิอิ เราสามารถทำ buttermilk เองได้ที่บ้าน โดยสูตรการทำ homemade buttermilk 1 ถ้วยตวง คือ น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ ผสมกับนมสด ปริมาณที่บวกกับน้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะแล้วได้ 1 ถ้วยพอดี งงมั้ยคะ เวลาทำ เราแค่ตักน้ำมะนาวใส่ถ้วยตวงไว้ก่อน 1 ช้อนโต๊ะ แล้วค่อยเทนมลงไปผสมให้ได้พอดี 1 ถ้วยตวง ทิ้งไว้ 5 นาที เป็นอันเรียบร้อย พร้อมใช้งาน
Fresh Strawberry Cake
240 g All-purpose flour
2 tsp Baking powder
1/2 tsp Salt
185 g Sugar
1/2 C Oil
1 C Buttermilk
1 t Vanilla extract
2 Eggs
1 1/4 C Fresh strawberries or any berries
Icing sugar for sprinkle (optional)
Instructions
- Preheat the oven at 180 C. Line a cake tin with parchment paper.
- In a mixing bowl, mix dry ingredients i.e. all-purpose flour, baking powder, and salt. Set aside.
- In another mixing bowl, mix eggs and sugar until the mixture becomes pale yellow.
- Add buttermilk, oil, and vanilla extract. Mix thoroughly.
- Fold in dry ingredients all at once. Mix just until combined. The batter should look lumpy.
- Pour half the batter into the cake tin. Lay diced strawberries or berries. Then, add the rest of the batter.
- Place strawberry halves on top as you desired.
- Bake at 180 C for about 45-55 minutes. I baked mine for 45 minutes.
- Cool completely. Sprinkle with some icing sugar if you wish. Enjoy!
สูตร เค้กสตรอเบอร์รี่ หน้ากรอบ
240 กรัม แป้งอเนกประสงค์
2 ชช ผงฟู
1/2 ชช เกลือ
185 กรัม น้ำตาลทราย
1/2 ถ้วย น้ำมันพืช
1 ถ้วย บัทเทอร์มิลค์ (น้ำมะนาว 1 ชต + นมสด ให้ครบ 1 ถ้วย)
1 ชช วนิลา
2 ฟอง ไข่ไก่
1 1/4 ถ้วย สตรอเบอร์รี่ หรือ เบอร์รี่อื่น ๆ
น้ำตาลไอซิ่งสำหรับโรยหน้า (ไม่ใส่ก็ได้)
วิธีทำ
- อุ่นเตาที่ 180 องศาเซลเซียส เตรียมพิมพ์เค้ก รองกระดาษไข
- ผสมของแห้ง โดยใส่ผงฟูและเกลือลงไปในแป้งอเนกประสงค์ คนให้เข้ากัน
- ในอ่างผสมอีกใบ ตีไข่และน้ำตาลด้วยตะกร้อมือจนเป็นเหลืองอ่อน
- ใส่ บัทเทอร์มิลค์ น้ำมัน และ วนิลา คนให้เข้ากัน
- ใส่ส่วนผสมของแห้งทั้งหมดลงไป คนแค่พอเข้ากัน ส่วนผสมยังเป็นก้อนเล็ก ๆ อยู่
- เทส่วนผสมครึ่งหนึ่งลงไปในพิมพ์เค้ก โรยด้วยสตรอเบอร์รี่หั่นเต๋า หรือเบอร์รี่อื่น ๆ จากนั้นเทส่วนผสมทั้งหมดตามลงไป
- เรียงหน้าเค้กด้วยสตรอเบอร์รี่สดหั่นครึ่ง
- อบที่ 180 C ประมาณ 45-55 นาที บุ๊งใช้เวลาอบ 45 นาที
- พักบนตะแกรงให้เย็น โรยหน้าด้วยน้ำตาลไอซิ่งถ้าต้องการ กินให้อร่อยค่า
Other recipes
- Cake recipes สูตรเค้ก
- Cookies recipes สูตรคุกกี้
- Bread recipes สูตรขนมปัง
- Waffles and pancakes สูตรวาฟเฟิลและแพนเค้ก
Until next time…