Volti Tuscan Grill & Bar โรงแรม Shangri-la Bangkok ต้อนรับเชฟอิตาเลียนคนใหม่ล่าสุด ปรับเมนูเสิร์ฟอาหาร Italian fine dining ทำออกมาได้ดีงามทุกจาน
Volti Tuscan Grill & Bar
Shangri-La Hotel, Bangkok
Lobby Level 89 Wat Suan Phlu Alley, Bang Rak, Bangkok 10500 THAILAND
Tel. +662 236 7777
https://www.shangrila-eshop-bangkok.com/web/Volti.aspx
Opening hours: 6 pm – 10 pm (Tue – Sun)
Closed on Monday
Map: https://goo.gl/maps/DJsjjc7UeNqgUmdX8
ห้องอาหารอิตาเลียน Volti Tuscan Grill & Bar โรงแรม Shangri-la Bangkok กลับมาเปิดให้บริการมื้อเย็นอีกครั้ง โดยครั้งนี้ต้อนรับเชฟชาวอิตาเลียนคนใหม่ Chef Bruno Ferrari มีการปรับเมนูให้มีความเป็น Italian fine dining เน้นการปรุงอาหารสไตล์ Tuscan ซึ่งก็คือการปรุงอาหารแบบดึงจุดเด่นของวัตถุดิบที่ใช้ให้ออกมาอร่อยที่สุด
Executive Italian Chef
Chef Bruno Ferrari ชาว Italian บ้านเกิดคือเมือง Pescara อยู่ติดริมทะเล Adriatic
Welcome breads
ขนมปังเสิร์ฟก่อนมื้ออาหารมี 2 แบบคือ focaccia ใส่มะเขือเทศเชอรี่และมะกอกดำ อีกอย่างคือ grissini เป็นขนมปังแท่งแบบกรอบของ Italy
Amuse-bouche
จานแรกเป็น complimentary จากเชฟ ซึ่งจะขึ้นอยู่กับเชฟว่าจะทำอะไรออกมาเสิร์ฟค่ะ วันนั้นบุ๊งได้เป็น มะเขือเทศสอดไส้ด้วย ricotta cheese, แตงกวา, และ bread crumbs จานนี้สดชื่นมากค่ะ เนื้อมะเขือเทศนุ่มสุด ๆ เกือบจะเป็นเจลลี่เลย ซอสด้านล่างคือ parsley oil ผสมกับ black olive powder
Appetizers
BEEF CARPACCIO 780 B
Lemon, mustard, rocket leaves, pecorino cheese, black truffle, and cherry tomato jelly
เนื้อวัวเสิร์ฟแบบดิบ สไลซ์ได้เป็นแผ่นบางมาก ๆ เชฟทำเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสไม่เหมือนใคร ด้านบนมีส่วนผสมหลายอย่าง เช่น lemon gel ได้รสเปรี้ยวและกลิ่นหอมเลมอน มี mustard ชิ้นสี่เหลี่ยมคือ cherry tomato jelly หรือเจลลี่มะเขือเทศเชอรี่ โรยด้วยเห็ดทรัฟเฟิลดำสไลซ์ แผ่นที่วางด้านข้างคือ pecorino chips หรือชิพที่ทำจากชีสเพคกอริโน จานนี้อร่อยสุด ๆ กินแล้วสดชื่น รสเปรี้ยวนำ ได้กลิ่นหอมของทั้ง black truffle และ lemon เนื้อก็นุ่มแบบแทบจะละลายในปากเลยค่ะ
SCALLOPS 840 B
Cauliflower and sambuca creme, Roman pecorino chips, and balsamic
หอยเชลล์ฮอกไกโดนำไปนาบกระทะให้สุกแค่ผิวด้านนอก ด้านในยังคงความดิบและฉ่ำอยู่ เสิร์ฟพร้อมดอกกะหล่ำคลุกเกล็ดขนมปังทอด ตัวดอกกะหล่ำนุ่มมาก ๆ ค่ะ นอกจากนี้ยังมี Sambuca creme ออกรสหวานนิด ๆ ด้านบนหอยเชลล์คือ balsamic caviar หรือ คาเวียร์ที่ทำจากน้ำส้มบัลซามิค ซึ่งเป็นวิธีการทำอาหารแบบ molecular gastronomy นั่นเอง
GRILLED OCTOPUS 680 B
Marinated in green sauce, smoked paprika, lemon jelly, garlic, and truffle sauce
หนวดปลาหมึกยักษ์ที่ผ่านการ sou-vide ในน้ำ court bouillon ที่มีส่วนผสมของผักนานาชนิด ได้แก่ หอมใหญ่ แครอท thyme ใบกระวาน celery และอื่น ๆ อีกหลายอย่าง นำไป slow-cooked เป็นเวลา 3-4 ชั่วโมง จากนั้นค่อยหั่นเป็น portion สำหรับเสิร์ฟ นำไปย่างจนมีกลิ่นหอม เสิร์ฟพร้อม มันหวาน 2 สี คือสีเหลืองและสีม่วง หนวดปลาหมึกยักษ์นุ่มมากถึงมากที่สุด จานนี้คือเมนูที่บุ๊งชอบมากเป็นอันดับ 3 ของทั้งหมดที่ชิมเลยค่ะ
Pasta
BOSTON LOBSTER TORTELLINI 1,200 B
Lemon, lobster bisque, saffron sauce, and parsley oil
Tortellini คือพาสต้าใส่ไส้ ทำสไตล์คล้ายเกี๊ยว ด้านในสอดไส้ด้วยเนื้อกุ้งล็อบสเตอร์ เสิร์ฟพร้อมก้ามกุ้ง lobsters และซอส 3 อย่างได้แก่ lobster bisque, parsley oil, และ saffron sauce จานนี้ได้กลิ่นหอมของ saffron ชัดเจนมากค่ะ
CARBONARA …THE ORIGINAL 650 B
Spaghetti, creamy eggs yolk sauce, pork guanciale, Roman Pecorino cheese, and black pepper
สปาเก็ตตี้คาร์โบนาร่า ปรุงสไตล์อิตาเลียนแบบดั้งเดิม โดยใส่ส่วนผสมเพียงแค่ไข่แดง ชีส pecorino พริกไทยดำ ด้านบนคือ guanciale หรือแฮม (เบคอน) อิตาเลียนที่ทำจากแก้มหมู จานนี้ครีมมีสุด ๆ เป็นจานที่โอเว่นชอบที่สุดค่ะ
DUCK BREAST WITH ACQUERELLO AGED RICE RISOTTO 680 B
Mascarpone cheese, lemon, and mint oil
จานที่บุ๊งชอบเป็นอันดับ 2 คือจานนี้ค่ะ อกเป็ดเสิร์ฟพร้อมข้าวริซอตโต้ที่ผ่านการบ่ม (aged) มานาน 36 เดือน เป็นข้าวแบบพิเศษที่เรียกว่า Acquerello risotto rice เชฟปรุงริซอตโต้กับชีสมาสคาโปเน่ ใส่เลมอนและน้ำมันใบมินท์ ตัว risotto ออกรสเปรี้ยวนิด ๆ หอมกลิ่นเลมอน เป็นครั้งแรกที่กินริซอตโต้แล้วรู้สึกว่ามีทั้งความครีมมีและสดชื่นในจานเดียว
FROM THE KOPA CHARCOAL GRILL OVEN
ก่อนถึงจานสเต็กเนื้อ ทางห้องอาหารจะนำมีดสเต็กมาให้เราเลือก ซึ่งตรงนี้เราเลือกตามความชอบส่วนตัวได้เลยค่ะ ชอบมีดสไตล์ไหน รูปร่างแบบไหน สีอะไร ความคมของมีดคือเท่ากันหมด และมีความคมมาก ขอบอก
TRI-TIP WAGYU MARBLE 6, 220g. 1,100B
จานนี้คือเมนูที่บุ๊งชอบเป็นอันดับหนึ่ง เนื้อวากิว tri-tip หรือเนื้อหางตะเข้ ซึ่งคือเนื้อส่วนปลายของ sirloin ในวัว 1 ตัวจะมีเพียงแค่ 2 ชิ้นเท่านั้น สเต็กเนื้อชิ้นนี้ marbling score 6 มีมันแทรกกำลังดี เชฟย่างเนื้อได้สุกกำลังดีมาก ๆ ค่ะ เนื้อนุ่ม หอมกลิ่น grill ไม่เหนียวเลยแม้แต่น้อย
สำหรับเมนู grill เราจะสามารถเลือกซอสได้ 2 อย่าง ต่อ 1 เมนู จานนี้เชฟแนะนำให้ทานคู่กับ green peppercorn sauce หรือซอสพริกไทยสด แต่บุ๊งไม่ได้กินคู่กับซอสเลย เพราะเชฟมีโรยเกลือและพริกไทยดำบนสเต็กเนื้อมาเรียบร้อย บุ๊งคิดว่าไม่จำเป็นต้องราดซอสใด ๆ และส่วนตัวคิดว่า เนื้อที่ดี แค่โรยเกลือกับพริกไทย ก็เพียงพอ เพราะเราจะได้รับรสความอร่อยของเนื้อที่แท้จริงค่ะ
ANGUS BEEF TENDERLOIN ROSSINI, 200g. 1,300 B
FOIE GRAS, BLACK TRUFFLE
สเต็กเนื้อแองกัสเทนเดอร์ลอยน์ หรือสันใน เนื้อส่วนที่นุ่มที่สุดและมีมันน้อยที่สุด ชิ้นนี้ขนาด 200 กรัม ย่างจนสุกกำลังดีมาก เนื้อนุ่ม ไม่เหนียวเลยแม้แต่น้อย คำว่า rossini หมายถึงการเสิร์ฟสเต็กเนื้อคู่กับฟัวกราส์ ตัว foie gras ก็ทอดมาได้ดีมากเช่นกัน ซอสที่เสิร์ฟมาในจานคือ beef jus หรือซอสที่ได้จากการย่างเนื้อนั่นเอง
Side dish
Homemade potato fries 160 B
มันฝรั่งทอดทำแบบโฮมเมด เสิร์ฟพร้อม garlic mayonnaise
Desserts
PANNA COTTA 380 B
Coconut, lemongrass, and mango
พานนา คอตต้า ใส่ตะไคร้และใบมะกรูด เสิร์ฟพร้อมไอศกรีมมะพร้าวโฮมเมด และมะม่วงสุก ด้านบนคือ มะม่วงกวนนำไปอบกรอบ จานนี้คล้ายต้มยำ แต่ไม่เผ็ดและไม่มีรสเปรี้ยว กินแล้วสดชื่นมากค่ะ
TIRAMISU – THE ORIGINAL 420 B
Coffee kahlua
ทีรามิสุ ขนมหวานดั้งเดิมของอาหารอิตาเลียน ทำจาก ladyfinger cookies นำไปแช่ในกาแฟ espresso ใส่คาลัว ทำเป็นฐาน ด้านบนคือชีสมาสคาโปเน่ โรยผงโกโก้
Petit fours
ขนมหวาน complimentary ปิดท้ายมื้อจากเชฟ เป็นไอศกรีม raspberry sorbet ทำสไตล์ lollipop และ cannoli แป้งพายม้วนเป็นรูปท่อสอดไส้ ricotta cheese
เมื่อก่อนห้องอาหารนี้มีชื่อว่า Volti Ristorante & Bar แต่กลับมาเปิดใหม่อีกครั้ง ในชื่อใหม่ Volti Tuscan Grill & Bar พร้อมเชฟคนใหม่และเปลี่ยน concept ใหม่ค่ะ
Until next time…