fbpx
Close To Heaven

A blog about food, desserts, drinks, mom & kids, travelling, and leisure…

The Essence School | โรงเรียนใหม่ของ Otto และ Owen

The Essence School | โรงเรียนใหม่ของ Otto และ Owen

The Essence School | โรงเรียนใหม่ของ Otto และ Owen ไปเรียนที่ใหม่เป็นยังไงบ้าง มาดูกันค่ะ

The Essence School | โรงเรียนใหม่ของ Otto และ Owen

The Essence School

อาคาร Siam Scape ชั้น 15 และ 16
Tel. 063-323-7069
065-998-6535
063-323-7050
065-998-6500

https://essence.ac.th/

The Essence School | โรงเรียนใหม่ของ Otto และ Owen

บุ๊งตัดสินใจให้ลูกชายย้าย ร.ร. ทั้ง 2 คน  ก็คือ Otto ย้ายไปเรียน ม.4 และ Owen ย้ายไปเรียน ม.1 ที่ โรงเรียน The Essence (ดิเอสเซนส์) ซึ่งเป็นโรงเรียนใหม่เพิ่งเปิดได้ไม่นาน  รับนักเรียนตั้งแต่ชั้น ป.3 ถึง ม.6  รูปที่อยู่ใน blog นี้ ลูกชายเป็นคนถ่ายทั้งหมด

The Essence School | โรงเรียนใหม่ของ Otto และ Owen

Why the move?

ตอนที่อ๊อตโต้อยู่ ม.3 บุ๊งมองหา ร.ร. ที่จะให้ลูกย้ายไปเรียน ม.4   วันหนึ่งมีเพื่อนผู้ปกครองที่เรียนที่เซนต์คาเบรียลมาด้วยกันตั้งแต่ประถมบอกว่าจะย้ายลูกไปเรียนที่ The Essence ซึ่งตอนนั้นบอกตามตรงว่าไม่เคยได้ยินชื่อ ร.ร. นี้มาก่อน  ก็เลยเริ่มหาข้อมูล  รู้สึกว่าเป็นโรงเรียนสหศึกษาที่น่าสนใจมาก  สิ่งหนึ่งที่หลายคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับที่นี่คือคิดว่าเป็น International school แต่จริง ๆ คือไม่ใช่เลย  ที่ The Essence เป็นโรงเรียนสามัญทั่วไป  เด็กที่จบที่นี่ จะได้วุฒิ ม.6 ตามที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนดไว้   พอได้ข้อมูลมาพอสมควร ก็เริ่มคุยกับลูก  ลองถามดูว่าสนใจมั้ย  ลูกบอกโอเค ไปลองดูก่อนก็ได้  ก็ทำนัดไปทางโรงเรียนเพื่อเข้าไปดูสถานที่จริงกัน

The Essence School | โรงเรียนใหม่ของ Otto และ Owen

First visit

บุ๊งพาลูกไปดูโรงเรียน 2 รอบ  ครั้งแรกคือช่วงวันหยุด  ไม่ใช่วันเรียน  ความตั้งใจคือไปดูสถานที่ก่อน  โรงเรียนนี้ตั้งอยู่บนชั้น 15 และ 16 ของอาคาร Siam Scape ตรงข้าม MBK ซึ่งเป็นอาคารใหม่พอสมควร  ด้วยความที่เพิ่งเปิดได้ไม่นาน สถานที่ ห้องเรียน อุปกรณ์ทุกอย่างดูใหม่หมด  ไปถึงก็ติดต่อที่ Reception มีพี่ Care Team มาต้อนรับแล้วพาเดินดูโรงเรียน  ส่วนครั้งที่ 2 ไปอีกครั้งในวันที่มีการเรียนการสอน  เพราะอยากเห็นสภาพจริงตอนเรียนว่าเป็นยังไง  ซึ่งเราสามารถดูได้แค่จากด้านนอกห้องเรียนผ่านกระจก  เค้าไม่อนุญาตให้เข้าไป observe ภายในห้องเรียนระหว่างสอนค่ะ

The Essence School | โรงเรียนใหม่ของ Otto และ Owen

ระหว่างที่เดินเยี่ยมชมสถานที่อยู่  ก็บังเอิญเจอผู้ใหญ่ท่านหนึ่งถามว่า ต้องการให้ช่วยอะไรมั้ย บุ๊งตอบไปว่า ไม่เป็นไรค่ะเพราะมีพี่ Care Team คอยให้ข้อมูลอยู่แล้ว  หลังจากเดินทั่วทั้งโรงเรียน ก็มานั่งคุยกันต่อที่ห้องสมุด  ณ ตอนนั้นเอง ผู้ใหญ่ท่านเดิม  เดินมานั่งคุยด้วย พร้อมบอกเล่าถึงวิสัยทัศน์ของโรงเรียน ความตั้งใจของผู้บริหารว่าอยากเปิดโรงเรียนที่สอนเฉพาะวิชาที่จำเป็นสำหรับการเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัย

The Essence School | โรงเรียนใหม่ของ Otto และ Owen

Slogan:  Time Matters

สิ่งที่บุ๊งประทับใจจากการคุยกับผู้ใหญ่ท่านนี้  อันดับแรก ท่านไม่ถือตัวเลย พยายามอธิบาย concept ของโรงเรียนอย่างละเอียด  พอบุ๊งและคุณพ่อของสองหนุ่มถามคำถามกลับไปเรื่องที่ โรงเรียนไม่มีสถานที่สำหรับเล่นกีฬา หรือ กิจกรรมนอกเวลาเรียน  ท่านตอบว่า  โรงเรียนมีความเปิดรับในทุกเรื่อง  หากนักเรียนมีความสนใจเรื่องไหนมาก ๆ เป็นการส่วนตัว และมีเพื่อนนักเรียนที่สนใจเรื่องเดียวกัน สามารถรวมตัวกันเพื่อจัดตั้งชมรมได้  วันเสาร์ โรงเรียนเปิดให้ใช้บริการสถานที่ได้ อยากให้นักเรียนมาใช้ให้เป็นประโยชน์ให้เต็มที่  นอกจากนี้ยังยกตัวอย่าง กิจกรรมอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวกับการเรียนว่าจัดตลอด เช่น การแสดงละครเวที การแสดงดนตรี และ workshops ต่าง ๆ อีกมากมาย

ตอนนั้นบุ๊งไม่รู้ด้วยซ้ำว่าท่านเป็นใคร  เพิ่งมารู้ตอนหลังว่าคือ ดร.วิวัฒน์ คติธรรมนิตย์ Director ของ The Essence School  

The Essence School | โรงเรียนใหม่ของ Otto และ Owen

Curricular

แผนการเรียนบุ๊งขอพูดถึงเฉพาะชั้น มัธยมปลาย  มีการแบ่งเป็นทั้งหมด 3 สายคือ 

  • Medical Sciece เน้นเรียนต่อคณะแพทย์ทุกสาขา รวมถึงคณะวิทยาศาสตร์ ที่เกี่ยวข้องทางด้าน ชีวะวิทยา และ Food Sci ด้วย
  • Applied Sciences วิทยาศาสตร์ประยุกต์  สำหรับเรียนต่อ ณะวิทยาศาสตร์ สถาปัตยกรรมศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ประยุกต์ เช่น ฟิสิกส์ เคมี วิศกรรม คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ คอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีสารสนเทศ 
  • Internaltional Track สำหรับเรียนต่อทางด้านภาษา คณะบัญชี เศรษฐศาสตร์ นิเทศฯ อักษร และ หลักสูตรนานาชาติ เช่น BBA COMMARTS BALAC

The Essence School | โรงเรียนใหม่ของ Otto และ Owen

Admission

การสมัครเรียน  ที่นี่ไม่มีสอบเข้า  เค้าใช้วิธีสัมภาษณ์เด็ก โดยมีผู้ปกครองเป็นผู้สังเกตการณ์  ตอนที่ทำการสมัครเรียนคือเดือนธันวาคม 2022  ส่งใบสมัครไม่นาน ทาง Care Team ก็นัดสัมภาษณ์  ซึ่งการสัมภาษณ์นี้ ปกติเข้าใจว่าน่าจะต้องเดินทางไปสัมภาษณ์ที่โรงเรียน  แต่ช่วงนั้นเป็นช่วงเฝ้าระวัง COVID มั้ง เค้าก็เลยจัดสัมภาษณ์ผ่าน Zoom และสัมภาษณ์ลูกชาย 2 คน เวลาเดียวกัน แต่คุยทีละคน โดยให้พ่อกับแม่ เข้าฟังสัมภาษณ์ด้วย   

ผู้สัมภาษณ์คือหนึ่งในทีมบอร์ดผู้บริหาร นพ.ธรรมศักดิ์ เอื้ออภิธร   หลัก ๆ คือสัมภาษณ์เด็กค่ะ  คำถามประมาณ อยากทำงานอะไร อยากเรียนด้านไหน สนใจวิชาอะไรเป็นพิเศษ  วิชาไหนที่คิดว่าตัวเองแข็งและอ่อน  และมีภามผู้ปกครองเล็กน้อยตอนท้าย   อย่าง Otto จะเข้าเรียน ม.ปลาย แต่ตอนที่สัมภาษณ์ยังไม่รู้ว่าตัวเองอยากเรียนอะไร คณะอะไร ด้านไหน ลูกก็ตอบไปตามตรงเลย  คุณหมอธรรมศักดิ์ก็พูดประมาณว่าเป็นเรื่องปกติ เรายังมีเวลาค้นหาตัวเราเองอยู่ได้เรื่อย ๆ   อันนี้บุ๊งฟังแล้วชอบนะคะ  อีกอย่างที่คุณหมอเน้นคือ วิชาคณิตศาสตร์  จะยังไงก็ห้ามทิ้ง เพราะเป็นวิชาพื้นฐานสำหรับการเรียนต่อมหาวิทยาลัยเกือบทุกคณะ ทุกสาขา

ส่วนโอเว่นตอบว่า อยากเป็น train engineer เพราะชอบรถไฟมาก   หลังจากสัมภาษณ์เสร็จไม่นานก็มีเจ้าหน้าที่ Care Team ติดต่อมาแจ้งตอบรับเข้าเรียนทั้ง 2 คน  และดำเนินการต่อเรื่องการส่งเอกสารและการชำระค่าเล่าเรียน

The Essence School | โรงเรียนใหม่ของ Otto และ Owen

Tuition fees

ค่าเล่าเรียนสามารถสอบถามทางโรงเรียนโดยตรงได้เลยค่ะ  ปัจจุบันคือ 180,000 บาท / ปี  หนึ่งปีมี 2 เทอม  สำหรับรายละเอียด ชั้นไหน เรียนวิชาอะไรบ้าง วิชาละกี่ชั่วโมง สามารถเข้าไปดูได้ที่นี่

นอกจากค่าเล่าเรียน ค่าหนังสือเรียน และค่าประกันอุบัติเหตุ ก็ไม่มีค่าใช้จ่ายอื่นเรียกเก็บจากทางโรงเรียน ยกเว้น นักเรียนต้องการเข้ากิจกรรมพิเศษ workshops ที่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม ทุกกิจกรรมคือให้นักเรียนสมัครด้วยความสมัครใจ ไม่มีการบังคับแต่อย่างใด  

The Essence School | โรงเรียนใหม่ของ Otto และ Owen

Teachers & Supervisors

ที่ The Essence เด็กทุกคนจะมีพี่ supervisor คอยดูแล ช่วยเหลือ ตอบคำถามทุกเรื่อง  เด็ก 1 คน มีพี่ sup คอยดูแล 1 คน  สำหรับครูที่สอนวิชาต่าง ๆ ลูกบอกว่า ก็เรียก พี่ Sup ทั้งหมด ยกเว้น ครูชาวต่างชาติ ที่จะเรียก Teacher มีทั้งชาว American สอนวิชา English Communication (ม.ต้น) และ ชาวอังกฤษจาก London สอนวิชา IELTS Speaking (ม.ปลาย)

The Essence School | โรงเรียนใหม่ของ Otto และ Owen

Facilities

Classrooms

ความรู้สึกแรกคือนึกถึงสถาบันสอนปริญญาโท  ห้องเรียนก็ให้ความรู้สึกประมาณนั้น  จากที่สอบถามมาในหนึ่งห้อง จะรับนักเรียนไม่เกิน 30 คน  นี่คือสิ่งที่บุ๊งชอบมาก  พอเข้าไปเรียนจริง ห้องอ๊อตโต้มี 18 คน ส่วนห้องโอเว่นมี 27 คน  ในห้องเรียนมี โต๊ะเรียน เก้าอี้ ทีวี ลำโพง Computer ต่อกับทีวีสำหรับฉายสื่อการสอน และกล้องวงจรปิด

The Essence School | โรงเรียนใหม่ของ Otto และ Owen
The Essence School | โรงเรียนใหม่ของ Otto และ Owen

Libraries

ห้องสมุดมีชั้นละ 1 ห้อง  ของชั้น 15 จะอยู่ที่เดียวกับ Reception

The Essence School | โรงเรียนใหม่ของ Otto และ Owen

ห้องสมุด ชั้น 16

The Essence School | โรงเรียนใหม่ของ Otto และ Owen
The Essence School | โรงเรียนใหม่ของ Otto และ Owen

Counselling Room

ห้องแนะแนว (เป็นห้องละหมาดด้วยค่ะ)

The Essence School | โรงเรียนใหม่ของ Otto และ Owen

Restrooms ห้องน้ำ

มีทั้ง 2 ชั้น ชาย หญิง และ ห้องน้ำสำหรับคนพิการ

The Essence School | โรงเรียนใหม่ของ Otto และ Owen

The Essence School | โรงเรียนใหม่ของ Otto และ Owen

Water dispenser

ตู้กดน้ำดื่ม มี น้ำเย็น น้ำร้อน และอุณหภูมิห้อง

The Essence School | โรงเรียนใหม่ของ Otto และ Owen

Elevators & escalators

ด้วยความที่อยู่ชั้นบน  นักเรียนต้องใช้ลิฟต์และบันไดเลื่อน   ลูกบอกว่าช่วงเช้าก่อนเข้าเรียน หลังอาหารเที่ยง และก่อนกลับบ้าน ลิฟต์จะคนเยอะ  ต้องต่อคิว  ชอบตรงที่มีการต่อคิวนี่แหละ บางคนขี้เกียจรอลิฟต์ก็ใช้บันไดเลื่อนได้

The Essence School | โรงเรียนใหม่ของ Otto และ Owen

The Essence School | โรงเรียนใหม่ของ Otto และ Owen

Being students

เมื่อเช้ามาเป็นนักเรียนแล้ว ชีวิตประจำวันคร่าว ๆ ของ Otto และ Owen มีดังนี้

  • เดินทางไปกลับ ร.ร. ด้วย รถไฟฟ้าลง BTS สถานี สยาม ก็ได้ หรือ สนามกีฬาแห่งชาติ ก็ได้
The Essence School | โรงเรียนใหม่ของ Otto และ Owen
  • เข้าเรียนเวลา 9 am และเลิกเรียนเวลา 4 pm ทั้้งมัธยมต้นและมัธยมปลายNote:  แต่หากเป็นเทอมที่มีการเรียน รด  เวลาเลิกเรียนของ ม.ปลาย จะมีการปรับเปลี่ยนเพราะต้องนำวิชาของวันที่เรียน รด มากระจายเรียนในวันอื่น ๆ แทน
The Essence School | โรงเรียนใหม่ของ Otto และ Owen
  • ใส่ชุดไปรเวทไปเรียนได้ตามชอบ แต่งหน้า ทำผมได้ตามสะดวก ขอแค่แต่งกายสุภาพ มิดชิด
The Essence School | โรงเรียนใหม่ของ Otto และ Owen
  • อุปกรณ์การเรียน:  iPad หรือ tablet  หากไม่มีสามารถใช้ สมุด ปากกาได้  แต่ลูกบอกว่าใช้ iPad หรือ tablet จะสะดวกกว่ามาก ในการเรียนและทำงานส่งครู
The Essence School | โรงเรียนใหม่ของ Otto และ Owen
  • Lunch อาหารเที่ยง ที่นี่ไม่มีโรงอาหาร  นักเรียนสามารถหาซื้ออาหารเที่ยงกินได้ตามชอบ  จะไปกินที่ไหนก็ได้ ภายในเวลาพักเที่ยง 1 ชั่วโมงเต็ม  หรือสามารถสั่งผ่านโรงเรียนก็ได้  บ้างก็ไปซื้ออาหารที่ 7-11  บางคนสั่งอาหารเดลิเวอรี  ส่วนลูกชายของบุ๊ง ไปซื้ออาหารที่จุฬาฯ ทั้งคู่
The Essence School | โรงเรียนใหม่ของ Otto และ Owen

7-11 มีที่ชั้น 9 และชั้นล่างสุด

The Essence School | โรงเรียนใหม่ของ Otto และ Owen

สั่งอาหารผ่านโรงเรียนได้ ทาง rich menu สั่งอาหารกลางวัน โดยต้องสั่งภายใน 8 pm ของวันก่อนหน้า  เช่น จะสั่งอาหารสำหรับวันพุธ  ต้องสั่งอาหารภายใน 8 pm วันอังคาร  แต่ลูกชายบุ๊งทั้ง 2 คนไม่เคยสั่งอาหารผ่านทาง ร.ร. ก็เลยไม่แน่ใจว่าเวลามาส่งอาหารแล้วหน้าตาเป็นอย่างไร  

The Essence School | โรงเรียนใหม่ของ Otto และ Owen
  • มีการสแกนบัตรนักเรียน เข้า-ออก โรงเรียน  แล้วระบบจะส่ง attendance ให้ผู้ปกครองทราบที่ Essence Parent App  ซึ่งพอเข้าห้องเรียน พี่ Sup จะทำการเช็คชื่ออีกครั้งเพื่อให้มั่นใจว่า นักเรียนมาเข้าเรียนตามคลาสแล้วจริง ๆ
The Essence School | โรงเรียนใหม่ของ Otto และ Owen
  • พี่ Supervisors ประจำตัวลูก จะส่ง monthly report เกี่ยวกับลูกมาให้เราทราบ  มีคำถามอะไร ผู้ปกครองสามารถสอบถามได้ตลอด  
The Essence School | โรงเรียนใหม่ของ Otto และ Owen
  • ระหว่างเทอม  โรงเรียนมีจัดกิจกรรม workshops พาทัวร์เยี่ยมชมมหาวิทยาลัย ตามคณะต่าง ๆ  อยู่ตลอด  บางรายการจัดฟรี บางรายการมีค่าใช้จ่าย  ที่ชอบมากคือมีเวิร์คช็อปหัดทำ CPR โดยบุคลากรของ ร.พ. และ workshop พาทัวร์คณะต่าง ๆ ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
The Essence School | โรงเรียนใหม่ของ Otto และ Owen

The Essence School | โรงเรียนใหม่ของ Otto และ Owen
  • ช่วงปิดเทอม มีคลาสให้เข้าร่วมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย เช่น ค่ายคณิตของ Sup K ค่าย junior camp, etc.
The Essence School | โรงเรียนใหม่ของ Otto และ Owen

การเรียน รด

การเรียน รด ของนักเรียนชั้น ม.ปลาย  ทางโรงเรียนเป็นผู้ดำเนินการ เตรียมตัวและพานักเรียนไปสมัคร สอบเพื่อเข้าเรียน รด  หากสอบไม่ผ่านรอบแรก สามารถสอบซ่อมได้  เมื่อเริ่มเรียน มีจัดรถตู้ รับ-ส่ง จาก Siam Scape ไปที่ โรงเรียนรักษาดินแดน ศูนย์การนักศึกษาวิชาทหาร ถ.วิภาวดีรังสิต  ตรงนี้มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม เหมา 10 ครั้ง ตามจำนวนวันที่ต้องเรียน ขาไป 600 บาท ขากลับ 600 บาท ทั้งไปและกลับ 1,200 บาท  หรือนักเรียนเดินทางไปกลับได้เองตามสะดวก  สำหรับนักเรียนโรงเรียน The Essence จะเรียน รด ทุกวันพุธ ของเทอม 1 เป็นเวลา 10 วันค่ะ

The Essence School | โรงเรียนใหม่ของ Otto และ Owen

หากใครมีคำถามอะไร  ถามใน comments ไว้ได้เลยนะคะ จะไปเอาคำตอบจากลูกชายมาให้ค่ะ

รีวิวอื่น ๆ เกี่ยวกับ 2 หนุ่ม

Until next time…

2 thoughts on “The Essence School | โรงเรียนใหม่ของ Otto และ Owen

  1. รบกวนสอบถามน้องๆและคุณบุ๊งครับ ว่าหลังจากที่ได้เรียนระยะเวลาหนึ่งแล้ว เป็นอย่างที่คิดไว้ตอนตัดสินใจเปลี่ยนโรงเรียนไหมครับ เท่าที่ทราบข้อมูลโรงเรียนเบื้องต้นมา น่าสนใจมากครับ เลยอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมประกอบการตัดสินใจครับ ขอบคุณครับ

    1. สวัสดีค่ะ

      ตอนที่ย้ายมาที่นี่ บุ๊งให้ลูกตัดสินใจว่า อยากย้ายหรือเปล่าหลังจากที่พาชม ร.ร. 2 รอบค่ะ
      พอเค้าบอกว่า อยากย้าย ก็เลยให้มาเรียนที่นี่
      แล้วค่อยถามลูกตามหลังว่า มาเรียนแล้วเป็นยังไง อยากย้ายกลับที่เดิมมั้ย
      ลูกตอบว่า ชอบที่นี่ เพราะสอนสนุกกว่าค่ะ เท่าที่ฟังจากลูกมาคิดว่า เค้าค่อนข้างโอเค
      ถึงจะเรียนหนัก แต่ไม่เครียดค่ะ

      ข้อดี ที่บุ๊งชอบนะคะ
      – พี่ Supervisor ที่คอยดูแล เหมือนเป็น advisor กลาย ๆ
      เวลาลูกมีอะไร ก็คุยกับพี่ sup ซึ่งเค้าก็ให้คำแนะนำดีค่ะ
      – หากลูกตามวิชาไหนไม่ทัน แทนที่บุ๊งต้องเป็นคนไปขวนขวายหาคอร์สติวเพิ่ม
      อ๊อตโต้ลูกชายคนโตไปปรึกษาพี่ sup แล้วทางผู้สอนก็จัดคลาส
      ติวเพิ่มพิเศษหลังเลิกเรียนให้ก่อนสอบ ไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ
      – ร.ร. มีกิจกรรมนอกเวลาเรียน ให้น้องลงสมัครตามความสมัครใจ ไม่บังคับ
      ชอบอันไหน ลงอันนั้น ไม่ชอบก็ไม่ต้องเข้าร่วมค่ะ
      – พี่ sup มีส่งรายงานเกี่ยวกับตัวน้อง การเรียน ฯลฯ ให้ ผปค ทราบ เป็นระยะ
      – เด็กมีอิสระในการตัดสินใจ ดูแลตัวเอง รับผิดชอบตัวเอง ต้องเข้าห้องเรียนให้ตรงเวลา
      รู้สึกว่าลูกกล้าคิด กล้าทำ กล้าพูดมากขึ้นค่ะ
      – ร.ร. มี guidance เรื่องการเรียนต่อมหาวิทยาลัยค่อนข้างดีเลยค่ะ

      จริง ๆ ข้อดีที่ชอบมีอีก แต่ตอนนี้นึกได้เท่านี้ค่ะ

      ข้อเสีย
      – น่าจะเป็นเรื่องสถานที่ค่ะ ด้วยความที่อยู่บนตึกชั้นสูง น.ร. ต้องรอลิฟท์ แต่บางคนก็ใช้บันไดเลื่อน
      แต่ข้อเสียก็กลายเป็นข้อดีตรงที่ว่า กว่าจะขึ้นจะลง นักเรียนก็ไม่ค่อยเถลไถลค่ะ

      ถ้านึกอะไรได้เพิ่มจะมาบอกนะคะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Back to top