- by Boonk
Canvas Bangkok ร้านอาหารสไตล์ Contemporary Bangkok Cuisine คอนเซ็ปต์ของร้านคือ เชฟอยากให้คนที่มาทานอาหารที่ร้าน รู้สึกสนุกไปกับเมนูอาหารที่ครีเอทขึ้นมาโดยใช้วัตถุดิบท้องถิ่นของไทยเรา นำมาปรุงอาหารสไตล์ตะวันตก ซึ่งเชฟทำออกมาได้ว้าวมาก สำหรับบุ๊ง
Canvas
Sukhumvit 55 (Thonglor), Bangkok
Tel. 099-614-1158
Opening hours: Tue – Thu, Sun 6 pm – midnight
Fri & Sat 6 pm – 12.30 pm
(Closed on Monday)
Valet Parking
การตกแต่งภายในร้านเป็นแบบอบอุ่น เป็นกันเอง ครัวแบบเปิดโล่ง ให้เราเห็นทุกขั้นตอนการปรุงอาหาร เราสามารถเลือกนั่งที่เคานเตอร์ หรือนั่งที่โต๊ะก็ได้ ส่วนตัวบุ๊งนั่งที่เคานเตอร์ ได้เห็นการทำงานของเชฟ และผู้ช่วยทุกคน แอบดูว่าเค้าทำอะไร ยังไงบ้าง
เชฟ Riley กำลังทำงานง่วนอยู่ในครัว
เมนูของร้านแคนวาส จะมีเมนูที่เชฟทำประจำ และ Daily Specials คือเมนูอาหารพิเศษประจำวัน เชฟบอกว่าเมนูที่ทำออกมาได้รับ inspiration จากวัตถุดิบตามฤดูกาล ซึ่งจะเน้นวัตถุดิบของไทย ไม่ว่าจะเป็นผักพื้นบ้าน หรือสมุนไพรต่าง ๆ ผักบางอย่างบุ๊งก็เพิ่งมีโอกาสได้ชิมเป็นครั้งแรก
ระหว่างรออาหาร มีขนมปังมันม่วงมาเสิร์ฟ พร้อม spread ที่ทำจากมันหมู งา กระเทียม หมูหยอง ก่อนกินคือคนให้ทุกอย่างในถ้วยเข้ากัน Purple Jam Bread เป็นขนมปังที่มีส่วนผสมของมันม่วงอยู่มาก เนื้อออกชุ่มฉ่ำ ไม่แห้ง ขนมปังมาแบบแผ่นแบน ๆ ที่ย่างบนเตามาเรียบร้อย
Spread ถ้วยนี้ ตอนที่บุ๊งกินคำแรกรู้สึกเซอร์ไพรส์มาก รสชาติจัดจ้าน สไตล์ไทยเลยทีเดียว มีกลิ่นหอมของกระเทียม รสออกเปรี้ยวนิด กินกับขนมปังมันม่วง อร่อยมาก
Market Vegetable Salad (360 B) สลัดที่มีส่วนประกอบของผักพื้นบ้านและสมุนไพรกว่า 40 ชนิด เป็นผักของโครงการหลวงฯ ซึ่งแต่ละอย่างที่อยู่ในจาน ให้ความรู้สึกแตกต่างกันเมื่อกิน เช่น แครอทมีรสหวานนิด มี texture ให้เคี้ยว ส่วนใบชะพลู ให้กลิ่นที่หอมเป็นเอกลักษณ์ กระเจี๊ยบเขียวรสไม่จัดมาก เนื้อไม่แข็ง ไม่นุ่ม หรือดอกอัญชันที่ให้สีสันสวยงาม แต่ไม่ค่อยมีรสเด่น
น้ำสลัดเป็นแบบ shaved ice หรือน้ำสับปะรดนำไปแช่แข็ง แล้วบดละเอียด กินเย็น ๆ สดชื่นมากมายนอกจากรสชาติแล้ว จานนี้มีสีสันและ presentation ที่ดึงดูดอีกด้วย
Mud Crab & Lotus (900 B) จานนี้บุ๊งชอบมาก เป็นเนื้อปูล้วนที่เชฟนำมาปรุงกับซอสให้มีรสชาติเข้มข้นเสิร์ฟพร้อมรากบัวฝานบางนำไปทอดกรอบ ด้านบนเนื้อปูมีสาหร่ายที่อยู่บริเวณเดียวกับดอกบัว ผักสีเขียวด้านบนคือผักแขยง ที่มีรสซ่านิด ๆ
Grilled Squid, filled with Cha-om (400 B) ปลาหมึกย่างให้มีกลิ่นหอม นำมาสอดไส้ชะอมผัด ด้านบนเป็นชะอมทอดกรอบ ที่ทอดได้กรอบ เบา อร่อยมาก ซอสที่เสิร์ฟมาคู่กันเป็นซอสเสาวรสที่ตอนแรกไม่คิดว่าจะเข้ากันได้ ปรากฏว่าเข้ากันได้ดีทีเดียวกับชะอมและปลาหมึก
Wild Mushrooms & Duck Yolk (420 B) ในจานนี้มีเห็ด 5 ชนิดด้วยกัน ซึ่งเป็นเห็ดตามฤดูกาลโดยส่วนใหญ่ อย่างช่วงนี้มีเห็ดเผาะ ซึ่งเชฟเรียกเป็นอังกฤษว่า Thai Truffle และนำเห็ดอีก 4 ชนิดมาสับเป็นชิ้นเล็ก ปรุงรสด้วยน้ำซุปเข้มข้นที่มาจากเห็ด ตรงกลางคือไข่เป็ดที่ทำการ slow cook จนเปลือกนอกจับตัวกันแต่ด้านในยังไม่สุกมากนัก เสิร์ฟพร้อมผักสีเขียวเช่น คะน้าส่วนใบอบกรอบและดอก broccoli
Shrimp Noodles & Shrimp Head Sauce (500 B) เส้นพาสต้าสดที่มีส่วนผสมของเนื้อกุ้งแชบ๊วย
โดยเชฟนำเนื้อกุ้งผสมลงไปในตัวเส้นเลยและนำมันกุ้งมาทำเป็นซอส ดังนั้นจานนี้มีความเป็นทะเลเข้มข้นสะใจมาก สิ่งที่ทำให้ตัดเลี่ยนได้ดีคือ ผิวมะกรูดขูดโรยอยู่ด้านบนให้กลิ่นหอมแบบสดชื่น
Pork Belly & Putsa (480 B) หมูสามชั้นหมักกับโคจิ (koji) หรือข้าวหมักของญี่ปุ่น ที่เชฟนำมาหมัก หมูสามชั้นให้มีรสเปรี้ยว (คล้ายไส้กรอกอีสาน) แล้วเอาไปทอดกรอบโรยด้วย dried daikon (ไชเท้า) ทานคู่กับพุทราบด จานนี้เชฟได้แรงบันดาลใจมาจากหมูที่จะเสิร์ฟคู่กับแอปเปิ้ล ก็เปลี่ยนให้แหวกแนวมาทานคู่กับพุทราแทน
Pigeon & Roasted Watermelon (1,240 B) อีกหนึ่งจานที่บุ๊งชอบมากคือจานนี้ นกพิราบนำมาปรุงให้สุก 2 วิธี เนื้อส่วนน่องนำไป confit หรือตุ๋นในน้ำมันอุณหภูมิต่ำ ส่วนเนื้อนำไปย่างในกระทะให้สุกแค่ medium rare เนื้อไม่เหนียวเลย มีกลิ่นหอมและอร่อยมาก ๆ เสิร์ฟคู่กับแตงโมอบ ทำให้มีรสหวานฉ่ำ มีกลิ่นหอม
Roasted Chestnut Cake (340 B) เนื้อเค้กเกาลัดนำไปอบให้สุกในเตาขนมครก ลักษณะเค้กเลยเป็นแบบนี้ เสิร์ฟคู่กับพุดดิ้งมะตูมที่เชฟนำไปอบในเตาจนได้กลิ่นหอมแบบ nutty คล้ายช็อคโกแลตหรือกาแฟ พออบสุกก็ทาด้านบนเค้กด้วยน้ำเชื่อมกลิ่นส้ม ท็อปด้านบนด้วยเมอแรงก์กลิ่นส้มเช่นกัน เนื้อเค้ก moist นุ่มและมีกลิ่นหอม nutty ผสมผสานกับกลิ่นส้ม หอมมากค่ะ