เมนูใหม่ล่าสุดของ เชฟต้น แห่ง LE DU ร้านอาหารไทยที่ได้รับ 1 Michelin Star และติดอันดับ 40 World’s 50 Best Restaurant 2024 มองด้วยตาจะดูไม่ออกเลยว่านี่คืออาหารไทย
LE DU
399/3 Silom 7 Alley, Silom, Bang Rak, Bangkok 10500 THAILAND
Tel. +669 2919 9969
https://www.ledubkk.com/
Opening hours:
Mon – Wed: 6 – 11 pm
Thu – Sat: 12 – 2 pm, 6 – 11 pm
Closed on Sunday
Reservation: https://www.ledubkk.com/reservation
Map: https://maps.app.goo.gl/qPJHfn78tzzuy36s5
Parking: Trinity Complex (2-hour free with validation stamp)
LE DU (เลอ ดู) มาจากคำว่า ฤดู ร้านอาหารไทยแบบไฟน์ไดน์นิ่งที่ได้รับรางวัลมากมาย และในปี 2024 เชฟต้น ธิติฏฐ์ ทัศนาขจร แห่ง LE DU ก็ได้สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นเชฟคนไทยคนแรกที่ติดอันดับร้านอาหารที่ดีที่สุดในโลกถึง 2 ปีซ้อน ในงาน World’s 50 Best Restaurants 2024 ที่ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2567
การตกแต่งภายในร้านแสดงให้เห็นถึง 3 ฤดูของประเทศไทย ฤดูร้อน ฤดูฝน และฤดูหนาว ของตกแต่งบนเพดานทุกชิ้นล้วนทำด้วยมือโดยนักศีกษาบรรจงใส่สมุนไพรไทยสีต่าง ๆ เช่น พริก กระเจี๊ยบ ใบเตย ใบมะกรูด ถั่วเหลือง ขมิ้น ฯลฯ ใส่ในหลอดแก้วจำนวนมากกว่า 20,000 ชิ้น ตกแต่งเรียงรายให้เป็นสีสันตามฤดูกาลต่าง ๆ
Awards winning restaurant
รางวัลที่ LE DU ได้รับในปี 2024 ได้แก่
- 1 Michelin Star หรือได้รับมิชลิน 1 ดาว
- อันดับ 40 The World’s 50 Best Restaurants 2024
- อันดับ 12 Asia’s 50 Best Restaurants ปี 2024
เชฟต้นใช้เทคนิคการปรุงอาหารแบบตะวันตกมาประยุกต์ใช้กับวัตถุดิบแบบ local เน้นใช้ผัก สมุนไพรไทย เครื่องปรุงต่าง ๆ จากเกษตรกรไทย และชาวประมงพื้นบ้านมาปรุงอาหารไทยแบบ fine dining แต่ละจานมี story ที่มาที่ไป ตะกร้านี้คือวัตถุดิบท้องถิ่นที่เชฟจะนำมาปรุงอาหารมื้อนี้ให้เราได้ลองชิมกันค่ะ
New menu 2024
เมนูอาหารใหม่ล่าสุดนี้ เชฟต้นบอกว่าตั้งใจทำแบบไม่มี reference ใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่อ้างอิงเมนูเก่า เพราะต้องการความแปลกใหม่ โดยยังคงใช้วัตถุดิบของไทย 100% ซึ่งเมนูใหม่ของร้าน Le Du ในปี 2024 มี 2 ราคาให้เลือก ดังนี้
- 4-course menu ราคา 3,900 B++
- 6-course menu ราคา 4,500 B++
สำหรับเครื่องดื่ม pairing มี 2 ราคาคือ
- 6-glass champagne & wine pairing ราคา 2,500 B++
- 7-glass tea paring ราคา 1,200 B++
AMUSE-BOUCHE
อาหารเรียกน้ำย่อย ส่วนใหญ่เป็นอาหารทางภาคเหนือ มีทั้งหมด 4 อย่างได้แก่
กระทงทอง
ด้านล่างคือกระทงแป้งกรอบใส่หนำเลี๊ยบคาเวียร์ เห็ด และใบคะน้าหั่นฝอยนำไปทอดกรอบ
เค้าบอกว่าให้เริ่มจากคำนี้ก่อน
ส้าปลาน้ำดอกไม้
ส้าคือยำของทางภาคเหนือ จานนี้อร่อยมากค่ะ เชฟนำเนื้อปลาน้ำดอกไม้แบบนำไปส้า ในจานนี้มีข้าวพองกรุบนิด ๆ เม็ดมะแขว่นที่มีรสเผ็ดชาเล็กน้อยคล้ายหมาล่าแต่คนละกลิ่นกัน ด้านบนคือมูสปลาเค็ม ที่ไม่เค็มโดดแต่มีกลิ่นหอมปลาเค็มอ่อน ๆ ตัวมูสนุ่มเนียน
เป็นจานที่ชอบกันทั้ง 3 คนแม่ลูกเลย
ข้าวซอย
เป็นจานที่ดูไม่ออกจริง ๆ ว่าคือข้าวซอย เชฟประยุกต์เปลี่ยนจากเส้นข้าวซอยมาเป็นถ้วยที่มีความกรอบ ด้านในได้รสชาติของข้าวซอยเนื้อ ใส่ผักดองต่าง ๆ ด้านบนคือเจลลี่ทำจากหอมแดง โรยด้วยผิวมะนาว
พอได้ชิมแล้วจะรู้ว่าคือข้าวซอย แต่ถ้ามองภายนอก เดาไม่ออกจริง ๆ ค่ะ
จอผักกาด
ซุปจอผักกาด รสเปรี้ยวเค็ม ใส่เกี๊ยวที่สอดไส้ด้วยหมูและไทยเบคอน ด้านบนคือครีมกระเทียม โรยด้วยถั่วเน่า
เกี๊ยวนุ่ม มีหลายรสชาติ
First course
ปลาช่อนทะเลรมควันและมะพร้าว
COBIA | COCONUT
ปลาช่อนทะเลจากชาวประมงพื้นบ้านที่กระบี่ นำมา aged ในตัวสาหร่ายเป็นเวลา 2 วัน เพื่อดับกลิ่นคาวและเพิ่มความอุมามิมากขึ้น เสิร์ฟกับเนื้อมะพร้าวอ่อนแช่ในน้ำมันมะพร้าวและน้ำมะพร้าวอ่อน มียอดมะพร้าวอ่อน ด้านบนคือไอศกรีมซอร์เบท์ที่ทำจากฟองที่เกิดจากการทำน้ำตาลมะพร้าว นำเฉพาะฟองมาทำเป็นน้ำส้มสายชู เชฟต้นมา aged ไว้ 4 ปี แล้วค่อยนำมาทำซอร์เบท์ ในจานมีเจลลี่ที่ทำจากหอยเสียบด้วย
จานนี้กินแล้วสดชื่น ไม่คาวเลย ได้รสและกลิ่นหอมของมะพร้าวชัดเจนมาก
Second course
แกงส้มกุ้งแซบ๊วยและบีทรูท
BANANA PRAWN I BEETROOT | SOUR CURRY
เชฟ twist ด้วยการทำแกงส้มเป็น Gazpacho หรือแกงส้มนำมาทำเป็นซุปเย็นนั่นเอง เพิ่มสีสันด้วยน้ำมันใบชะอมสีเขียว เสิร์ฟพร้อมกุ้งแชบ๊วยเคล้าปลาแห้งและน้ำมันจากหัวกุ้ง ด้านล่างสุดคือบีทรูทดองกรอบ ๆ รสเปรี้ยวหวาน ด้านบนคือบีทรูทต้มกะทิ นุ่มหวานฉ่ำ
กาสปาโชแกงส้มรสชาติเข้มข้น จัดจ้าน เราสามารถแจ้งร้านได้นะคะว่า ไม่ทานเผ็ด อย่างของโอเว่น เค้าให้น้ำซุปเย็นมาใส่ต่างหากค่ะ
กินกับบีทรูทที่มีทั้งรสเปรี้ยวและหวาน เข้ากันดีเลย หากใครแพ้อาหารอะไร แจ้งทางร้านไว้ล่วงหน้าได้ค่ะ อย่างบุ๊งแพ้กุ้งดิบ เชฟก็จะปรุงให้กุ้งสุกหน่อยแล้วค่อยมาเสิร์ฟ
ต้มโคล้งดีหมึกและปลาหมึก
SQUID | BONE MARROW
หมึกเสาะผัดกับดีหมึก ซุปไขกระดูวัว เป็นเส้นอยู่ด้านล่าง ด้านบนคือ หอยดอง กระเทียมโทนดอง กุ้งแพทอดกรอบ มีเจลพริกน้ำปลา แผ่นกรอบ ๆ สีดำคือกรอบ และมีหลายรสชาติ กินกับหมึกเสาะดีหมึก อร่อยมาก เข้ากันดีเลยค่ะ
ที่สำคัญคือ กินกับกระเทียมดอง อร่อยมาก ๆ ๆ ๆ
คอร์สนี้เสิร์ฟพร้อมปลาหมึกมูสทอดกรอบ ไชเท้าดอง พร้อมน้ำซุปต้มโคล้งร้อน ๆ ที่ทำจากปลาโอแห้ง ได้กลิ่นหอมของสมุนไพรไทยสไตล์ต้มโคล้ง
ต้มโคล้งเข้มข้น จัดจ้านมาก
แกงกะทิสายบัวปลาเค็มและปลาเก๋า
GROUPER | LOTUS STEM | SALTED FISH
ปลาเก๋าย่างเตาถ่าน เสิร์ฟคู่กับมูสดอกกะหล่ำที่นำไป infused กับปลากุเลาดองเค็ม เห็ดมะม่วงซึ่งเป็นเห็ดป่าตามฤดูกาล จะหาทานได้เฉพาะช่วงนี้ นอกจากนี้ยังมีไขวัวต้มกะทิ หอมมัน ด้านบนที่เป็นแผ่นใส ๆ คือ potato paper กับมะแขว่น
เนื้อปลาเก๋าสุกกำลังดีมาก ๆ
เพิ่งเคยกินเห็ดมะม่วงเป็นครั้งแรก กินกับมูสดอกกะหล่ำ รสชาติดีมาก
Main course
ข้าวยำแตงโมและผัดเผ็ดเนื้อ
THAI WAGYU | CHILI | WATERMELON
สเต็กเนื้อไทยวากิว สายพันธุ์ทาจิมะจากญี่ปุ่น ที่นำมาเลี้ยงและเติบโตที่ จ. สกลนคร เนื้อนุ่มและหอมมากค่ะ แบบไม่ต้องพึ่งซอสใด ๆ แต่ถึงอย่างนั้นซอสที่เชฟเสิร์ฟมาด้วย ทำจากกระดูกเนื้อเคี่ยวกับไวน์แดง กระชาย พริก เพิ่มความเป็นไทยให้กับเนื้อวากิวชิ้นนี้
ที่เห็นเป็นสีดำคือ ข้าวสังข์หยดจากพัทลุง ทำเป็น crumble มีความกรุบ ๆ อร่อยมากเลยค่ะ บุ๊งชอบมาก ในจานยังมี smoke mayo emulsion (เป็นรูปเจลลี่ครึ่งวงกลม) และ แตงโมที่นำไป compressed ในน้ำองุ่น หวานฉ่ำ เสิร์ฟพร้อม baby carrot และใบงาห่อมะเขือยาว
เนื้อสุกกำลังดี นุ่ม หอม อร่อยมาก ๆ
Pre-dessert
Lime and Italian basil sorbet
ด้านล่างคือใบ sorrel ด้านบนคือใบมะขามอ่อน รสเปรี้ยวหวาน หอมใบโหระพาอิตาลี สดชื่นมาก ๆ เป็นเมนูล้างปากที่ดีงามเลยค่ะ
Desserts
เมี่ยงคำผลไม้และไอศครีมมะพร้าวคั่ว
อาหารคาวของเชฟต้นว่าอร่อยแล้ว มาเจอขนมหวานคือ blow my mind ไปเลยค่ะ ทุกจานคือดีและอร่อยมาก เริ่มจากจานนี้เป็น White chocolate mousse มูสไวท์ช็อกโกแลต สอดไส้แยมลิ้นจี่และกระท้อน ไม่หวาน มีความหอม คลุกเคล้ามะพร้าวเพิ่ม texture ให้เคี้ยวเล็กน้อย ด้านบนคือเจลทับทิม และ เจลขมิ้นน้ำมะนาว กินกับครัมเบิลถั่วลิงสงด้านข้าง ตัวไอศกรีมมะพร้าวคั่วราดน้ำเมี่ยง คืออร่อยมากกกกกกกกก กินแล้วได้รสชาติของเมี่ยงคำแบบไทย ๆ
จานนี้คือดีงามมากค่ะ
เมี่ยงคำในคราบขนมหวาน อร่อยมากจริง
PETIT FOUR
ขนมหวานปิดท้าย มี 2 อย่าง ซึ่งบุ๊งชอบมากทั้งคู่
ขนมเปียกปูนกากมะพร้าว
ขนมไทยที่บุ๊งชอบที่สุด ท็อปด้วยเมอร์แรงก์น้ำตาลมะพร้าวจากสมุทรสาคร กลิ่นหอมมะพร้าวมาก อร่อยสุด ๆ
ผลไม้นพเก้า
ผลไม้รวม 9 ชนิด เสิร์ฟพร้อมเจลลี่บ๊วยเค็ม กินแล้วให้ความรู้สึกเหมือนกินผลไม้พริกเกลือ เป็นการปิดท้ายมื้ออาหารที่ perfect สุด ๆ ชอบมากค่ะ
ของที่ระลึกเป็น ชา Le Du Blend ชาดำจากเชียงใหม่
เป็นมื้อที่ประทับใจมากมาย อยากให้ทุกคนมาลองชิมค่ะ
รีวิวร้านมิชลินอื่น ๆ
Until next time…