มื้อค่ำสุด exclusive @ Restaurant POTONG | 1 MICHELIN Star เชฟแพม ร่วมกับ AWC Thailand จัด charity dinner เพื่อมอบเป้นทุนการศึกษาในโครงการ WFW Scholarship Program และ โครงการ WFW Internship ให้กับนักศึกษาหญิงไทย เป็นมื้อที่สุดยอดมากค่ะ
Restaurant POTONG
422 Vanich Rd. Samphanthawong, Bangkok 10100 THAILAND
Tel: (+66) 082 979 3950
Email: info@thexprojectbkk.com
https://www.restaurantpotong.com/
Map: https://g.co/kgs/fsozRp4
Operating hours: Thu – Mon (Closed on Tue & Wed)
Dinner: 4.30PM/ 5.00 PM / 5.30 PM / 6.00 PM / 6.30 PM / 7.00 PM/ 7.30PM/ 8.00PM
Reservation: https://www.restaurantpotong.com/reservation
โพทง หรือ Restaurant POTONG ร้านอาหาร fine dining แนว Progressive Thai-Chinese restaurant โดย เชฟแพม – พิชญา สุนทรญาณกิจ เชฟหญิงคนเก่งอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย บุ๊งเป็น FC เชฟแพมมานานค่ะ เคยมีโอกาสได้ลองชิมฝีมือเชฟตามงาน event ต่าง ๆ เช่น AUSTRALIAN BEEF OMAKASE ที่จัดโดย MLA จำได้ว่าครั้งน้้นประทับใจทุกจาน ตั้งแต่เชฟเปิดร้านอาหาร โพทง จนได้รับรางวัลมิชลิน 1 ดาว บุ๊งเพิ่งมีโอกาสได้มาชิมวันนี้เป็นครั้งแรก
Awards winning restaurant
รางวัลที่ร้าน POTONG และเชฟแพมได้รับในปี 2024 นั้นมีเยอะมาก เช่น
- 1 Michelin Star หรือได้รับมิชลิน 1 ดาว
- Michelin Thailand Opening of the Year Award
- อันดับ 17 Asia’s 50 Best Restaurants ปี 2024
- Asia’s Best Female Chef Award 2024 (รางวัลสำหรับ Chef Pam)
The building
ร้านโพทงเป็นตึกเก่าที่ครอบครัวเชฟแพมอาศัยอยู่และทำธุรกิจร้านขายยามานาน 100 กว่าปี เชฟตัดสินใจทำการ renovate ใหม่ โดยยังคงรักษาเสน่ห์ความเป็นตึกเก่าย่านเยาวราชไว้อยู่ ตึกนี้มี 5 ชั้น พร้อมลิฟท์ให้บริการ เนื่องจากร้านตั้งอยู่ในซอย วาณิช 1 ที่ค่อนข้างแคบ และไม่มีที่จอดรถ ทางร้านจึงแนะนำที่จอดรถ 2 จุด สามารถสอบถามข้อมูลจากร้านได้โดยตรง
5-ELEMENT philosophy
“Salt, Acid, Spice, Texture, and Maillard Reaction”
เชฟแพมปรุงอาหารโดยใช้หลักปรัชญา 5 ธาตุ “เกลือ, กรด, เครื่องเทศ, เนื้อสัมผัส, และปฏิกิริยา Maillard” ทุกคนที่มาทานอาหารที่ร้านจะได้รับประสบการณ์ การมองเห็น, เสียง, กลิ่น, รสชาติ, และการสัมผัส ครบทั้ง 5 อย่าง
WFW Special Dinner
มื้อค่ำครั้งนี้เป็นการร่วมมือกันระหว่าง Cher Pam และ AWC Thailand จัดเป็นงานดินเนอร์การกุศล เพื่อสนับสนุนโครงการ WFW (Women-for-Women Scholarship & Internship Program) ช่วยส่งเสริมศักยภาพนักศึกษาหญิงไทยในสายการทำอาหาร สานฝันสู่เชฟมืออาชีพ และให้โอกาสการศึกษาสู่ชนบท คอร์สมื้อค่ำพิเศษนี้มีเฉพาะวันที่ 17 มิ.ย. 2024 ในราคา 17,000 บาทต่อคน โดยรายได้ทั้งหมด ไม่หักค่าใช้จ่ายจากงาน “WFW Special Dinner with Chef Pam” จะเข้าสู่โครงการ WFW Scholarship & Internship เป็นงานที่ดีและน่าสนับสนุนมากค่ะ
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการ สามารถอ่านต่อได้ที่นี่
WOMEN-FOR-WOMEN SCHOLARSHIPS & INTERNSHIP PROGRAM
“WFW dinner” chef’s tasting menu
kombucha of the day
เมื่อไปถึงที่ร้านจะมีพนักงานเชิญไปนั่งรอพร้อมเสิร์ฟ Kombucha ชาสูตรพิเศษ มีกลิ่นหอมของดอกไม้
สดชื่น ก่อนไป step ต่อไป
potong’s charcuteries & collaboration wine
จากนั้นจะพาเราขึ้นลิฟท์ไปยัง rooftop ชั้น 5 สร้างเป็น glasshouse ด้านบนเป็นเคานเตอร์บาร์ พร้อมเสิร์ฟเครื่องดื่มและ charcuteries ที่ทางร้านทำเอง มี 3 อย่างคือ กุนเชียง แฮมยูนนาน และ Lap yuk หรือเบคอนแห้ง พร้อมเครื่องดื่ม ให้เรานั่งชิลประมาณ 10 นาที และจะมีพนักงานมาพาเราไปยังชั้น 2 หรือ 3 ซึ่งเป็นบริเวณร้านอาหาร
บาร์เสิร์ฟเครื่องดื่ม
Charcuteries ที่ทางร้านทำเอง
กินเรียงจากบนลงล่าง วิธีกินคือกิน 2 แผ่นที่วางไว้ด้วยกัน คู่กัน ใช้มือหยิบก็ได้ หรือใช้ที่คีบก็ได้เช่นกัน
Appetizers
black chicken / chinese herb / broth
คำแรกคือ ทาร์ตไก่ดำ ขนาดพอดีดำ แป้งทาร์ตแผ่นบางกรอบทำเป็นรูปฝาประกบกัน ด้านในคือเนื้อไก่ดำและสมุนไพรต่าง ๆ คำนี้รสชาติเข้มข้นมาก หอมสมุนไพร เสิร์ฟพร้อมน้ำซุปไก่ดำเสิร์ฟร้อน ๆ ซดไปคำแรกนึกถึงตอนเด็ก ๆ เวลาอาม่าตุ๋นซุปไก่ดำมากิน หอม เข้นข้น ไม่มีคำว่าเจือจาง อร่อยมาก
All about banana
คอร์สถัดมาเสิร์ฟพร้อมกัน 3 อย่าง ซึ่งทำจากส่วนต่าง ๆ ของกล้วย คือ กล้วย, หัวปลี, และหยวกกล้วย
อันนี้เป็น portion สำหรับ 3 คน พอดีว่าโต๊ะที่บุ๊งนั่งมี 3 คนค่ะ
banana / chicken liver
เริ่มจากกล้วยผสมตับไก่บด ทำเป็น liver pate เสิร์ฟพร้อม tuile แป้งบางกรอบ ทำเป็นรูปทรงกล้วย ตับบดมีความนุ่มละมุน กินง่ายมาก
banana flower / fish garum / dill
หัวปลีนำมาทำเป็นแกงอ่อม ใส่ผักชีลาว ทำออกมาหน้าตาคล้ายโรลปลาไหลเลยค่ะ แต่รสชาติไม่ใช่ จะเป็นแนวแกงอ่อมแบบแห้ง มี texture ให้เคี้ยวด้านใน ส่วนด้านบนจะหยุ่น ๆ หนึบ ๆ
banana stalk / peanut / lime
หยวกกล้วยนำมาทำเป็นส้มตำเสิร์ฟในแป้งทาร์ตบางกรอบ ใส่ถั่วลิสงคั่วตำ ได้รสเปรี้ยวจากมะนาว กินแล้วรู้เลยว่าเป็นส้มตำ
ทั้ง 3 คำนี้เสิร์ฟพร้อม banana cocktail ทำจากเปลือกกล้วยและรัม
ออกหวานหน่อย
carabinero / pickle radish / tamarind / rice noodle
shrimp shot
จานนี้คือ ผัดไทย ที่หน้าตาไม่เหมือนใคร ด้านล่างที่เป็นสีแดงคือ กุ้ง Carabinero ตัวกุ้งสีแดงสดจากแถบเมดิเตอร์เรเนียน เนื้อกุ้งพันธุ์นี้จะหวาน texture กรุบนิด ๆ ด้านบนตัวกุ้งคือเครื่องผัดไทยต่าง ๆ
ก่อนเสิร์ฟเค้าจะนำก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่รูปธงชาติไทยมาห่มตัวกุ้งที่โต๊ะ
จากนั้นจะเสิร์ฟซุปเข้มข้นที่ได้จากการต้มหัวกุ้ง Carabinero ปรุงรสเปรี้ยว เผ็ด
วิธีกินคือ ใช้ตะเกียบคีบทั้งตัวกุ้งและเส้นธงชาติ ทานพร้อม ๆ กัน บุ๊งกินคำเดียวเลยค่ะ เพราะด้านในมีเครื่องปรุงอยู่ได้ ไม่แนะนำให้กินแยกกัน ไม่อย่างนั้นจะได้รสชาติไม่ครบ พอกินแล้วรู้สึกได้ถึงความผัดไทย ตัวเส้นใหญ่นุ่มมากค่ะ
ซุปหัวกุ้งถ้วยนี้ อร่อยมาก เปรี้ยวนิด เผ็ดหน่อย ซดร้อน ๆ ชื่นใจสุด ๆ
grated shrimp yolk /yin-yang egg noodles / morel / pork broth / caviar
บะหมี่ไข่หยินหยาง สีครีมไข่ และ สีดำสลับกัน เสิร์ฟพร้อม slow-cooked morel หรือเห็ดมอเรลตุ๋นจนนุ่ม และน้ำซุปกระดูกหมูเข้มข้น จานนี้ออกไปทางรสเค็มนำ
เส้นหยินหยาง
ด้านใต้เห็ด morel
Seafood
mikandai / lemon grass / beurre blanc
บุ๊งชอบจานนี้มากค่ะ ปลา Mikandai จากญี่ปุ่น ที่เนื้อปลาปรุงสุกกำลังดี มีความนุ่มแต่แน่น ส่วนที่อร่อยมากคือ ส่วนหนังปลาที่ยังมีเกล็ดปลาอยู่ เชฟทำจนกรอบ กินได้ทั้งหนังปลาและเกล็ดปลา
ซอสที่เสิร์ฟมาคู่กันคือ Beurre blanc มีความครีมมีและรสเปรี้ยว กินแล้วไม่เลี่ยนเลย
ด้านบนเนื้อปลาคือ ผักชีใบเลื่อย และ ต้นกระเทียม ขูดฝอยทอดกรอบ กินพร้อมกันทุกส่วนเข้ากันสุด ๆ
langostine / red curry
Langoustine หรือ Norway lobster กุ้งรูปร่างเหมือนล็อบสเตอร์ขนาดเล็ก เสิร์ฟพร้อมซอสแกงเผ็ด โฟมตะไคร้ และหมั่นโถวทอด
หมั่นโถวทอดอร่อยมาก กรอบนอก เนื้อในฟูนุ่ม กินกับซอสคือที่สุด
บุ๊งชิมมาหลายจาน บอกได้เลยว่า เชฟแพมเก่งเรื่องการทำซอสมากค่ะ
Palate Cleanser
songklha mamuang baw
เมนูล้างปากก่อน main course คือมะม่วงเบาจากสงขลา สามารถกัดกินได้ทั้งเปลือก มาพร้อมกรานิตต้าพริกเกลือก มะม่วงเปรี้ยวมากค่ะ
ก่อนเริ่มจานหลัก เค้าจะให้เราเลือกตะเกียบ อารมณ์เหมือนเวลาเราเลือกมีสเต็กนั่นเลยค่ะ น้องก็จะอธิบายว่า แต่ละสีมีความหมายแตกต่างกันยังไง
3 แบบแรกที่มีสีทอง ทำจากทอง หมายถึง royal family
2 แบบถัดมาสีเขียว ทำจากหยก หมายถึง ความโชคดี
1 แบบถัดมา คือไม้ หมายถึง ชาวปะมง
3 แบบสุดท้าย สีดำ หมายถึง modern ความสมัยใหม่
บุ๊งเลือกแบบสีทอง royal family
Main course
roasted duck brain | crispy duck | 14-day 5-spiced aged duck
จานหลักมาแบบอลังการงานสร้างมากค่ะ เมนูนี้คือ เป็ดปักกิ่ง ข้าวอบซอส XO ในหม้อดิน และเครื่องเคียงต่าง ๆ
อันนี้คือ portion สำหรับ 3 คน
อันดับแรก เค้าจะมาคลุกเคล้าข้าวผัดซอส XO สูตรของโพทง อบในหม้อดินเผาร้อน ๆ แล้วนำ topping s ต่าง ๆ มาคลุกเคล้ากับข้าวในหม้อที่โต๊ะ ท็อปปิ้งมี 4 อย่างคือ แปะก๊วย เห็ดหอม เผือก และต้นหอม
ข้าวอร่อยมาก แบบมาก ๆ ค่ะ มีกลิ่นหอมจากการผัดและการเคล้าในหม้อดิน อันนี้แหละคือ ปฏิกิริยา Maillard บุ๊งชอบข้าวสุด ๆ เวลาเคี้ยวมีหลาย texture และที่สำคัญคือ เค้าบอกว่าสามารถเติมข้าวได้นะคะ
เป็ดปักกิ่ง ที่ผ่านการ dry-aged มาแล้ว 14 วัน เชฟใช้ส่วนอกเป็ดนำไปย่างจนหนังกรอบ เสิร์ฟพร้อมเนื้ออกเป็ดที่ยังคงความนุ่ม ฉ่ำ เรียกได้ว่าทำมาแบบ perfect execution มาก ๆ ยกนิ้วให้เชฟจริง ๆ ค่ะ หนังกรอบนิด ไม่แห้ง มีความฉ่ำ ด้านบนโรยเกลือมาเล็กน้อย กินแค่เป็ดอย่างเดียวก็อร่อยแล้ว ไม่ต้องพึ่งซอสใด ๆ
ก้อนสี่เหลี่ยมนี้คือส่วนต่าง ๆ ของเป็ดนำมาบด ปั้นเป็นก้อนสีเหลี่ยม แล้วนำไปทอดให้ด้านนอกกรอบ
ด้านบนหัวน้องเป็ดคือ สมองเป็ดผสมกับสมุนไพรไทยหลากหลายชนิด บุ๊งเพิ่งเคยกินครั้งแรก แว๊บแรกที่ชิมคือรู้สึกว่าหอมสมุนไพร รสชาติจัดจ้าน ไม่คาวเลย
Side dishes
เครื่องเคียงเสิร์ฟพร้อมจานหลัก มี 3 อย่างคือ
duck leg / grilled eggplant
เนื้อน่องเป็ดสับผัดกับมะเขือม่วง สไตล์ซอสข้น อันนี้กินง่ายนะ นวล ๆ ดี ออกแนว comfort food
house pickles / pickled cabbage
กานาฉ่ายหรือผักกาดดองสไตล์จีน ด้านบนคือแตงกวาฝานบาง
kailan / crispy leaves
ปกติบุ๊งไม่ชอบกินคะน้า แต่จานนี้ยกให้เลยค่ะ มันคือ คะน้าจีนส่วนก้าน ด้านบนท็อปด้วยใบคะน้าจีนหั่นฝอยทอดกรอบ อร่อยมาก ๆ
Desserts ขนมหวาน
salak
สืบเนื่องจากแถวใกล้ ๆ ซอยวาณิช 1 ที่ร้านตั้งอยู่มีร้านขายผลไม้ค่อนข้างเยอะ ขนมหวานจานแรกคือ กรานิต้าสละลอยแก้ว วิธีการเสิร์ฟเก๋ไก๋สุด ๆ คือ ตอนเค้ายกน้ำแข็งมาเสิร์ฟ ยังงงว่าให้เรากินน้ำแข็งแกะสลักลวดลายจีนเหรอ (แต่แกะมาได้สวยมากนะ)
อันดับแรก ใช้มือรองด้วยกระดาษสีแดง จับน้ำแข็งแกะสลักลายจีนแล้วพลิกอีกด้านขึ้นก็จะเจอ salak granita ท็อปด้วยแผ่นแครอททำสไตล์แผ่นลูกกวาดบางกรอบ
วิธีกินคือ ใช้มือยกน้ำแข็งก้อนนั้น แล้วค่อย ๆ กัดกินกรานิต้าสละทีละนิด เมนูนี้เปรี้ยวหวานสดชื่นมาก
all about pistachio
ขนมจานนี้คือ พิสตาชิโอและส้ม วงกลมคือ pulled sugar ribbon แผ่นน้ำตาลสีสวย กรอบ ๆ ทำเป็นแผ่นริบบิ้น ด้านในคือ pistachio paste และ mousse ใส่ถั่วพิสตาชิโอสับหยาบ เสิร์ฟพร้อมซอร์เบท์ส้ม ท็อปด้วยแผ่น tuile และ ซอสส้มพีช จานนี้มีทั้งความสดชื่นและหอมมันในตัว
the remake of thai-chinese street desserts
ตามมาด้วย petit fours ของร้านโพทง มีความผสมผสานระหว่างไทย จีน และฝรั่ง คำว่า Petit fours คือ ขนมชิ้นเล็ก ๆ ก่อนปิดท้ายมือ ซึ่งที่มาเสิร์ฟมีทั้งหมด 5 อย่างด้วยกัน
โดยกินเรียงกันตามนี้ เริ่มจาก
เก๊กฮวยคัสตาร์ด กินแล้วได้ความเก๊กฮวยสูงมาก
Pandan coconut milk สีเขียว texture คล้ายเยลลี่ขนมชั้นหยุ่น ๆ หอมใบเตย
Prune cookie topped with chocolate คุกกี้สอดไส้พรุน ท็อปด้วยช็อกโกแลต
Chocolate Thai Tea ช็อกโกแลตสอดไส้ชาไทย
Ginger บุ๊งชอบคำนี้ที่สุด ปิดท้ายด้วย ความหอมของขิง มีขมปลายลิ้น หวานน้อย อร่อย
fortune
ปิดท้าย ท้ายที่สุดด้วย fortune cookie ที่นำเสนอด้วยวิธีการแปลกใหม่ ในตู้ลิ้นชักยาจีน ให้เราเลือกลิ้นชักที่ชอบ ด้านในมีซองคุกกี้ พร้อมคำทำนาย
บุ๊งเลือกได้อันนี้ค่ะ ‘The one you love is closer than you think.’
บุ๊งประทับใจมื้อนี้มาก ตั้งแต่เริ่มเดินเข้าร้าน รู้สึกว่ามีความน่าค้นหา และตื่นเต้นว่าเราจะได้พบกับสิ่งใดต่อไป อาหารทุกคอร์ส ผ่านการคิดมาแล้วเป็นอย่างดี และทำออกมาได้ดีงาม มีความเป๊ะทุกจาน
อีกสิ่งหนึ่งที่ประทับใจคือ โครงการ WFW (Women-for-Women Scholarship & Internship Program) ที่เชฟแพมริเริ่ม อยากสานต่อความฝันให้น้อง ๆ ผู้หญิงที่อยากก้าวต่อไปในวงการอาหารค่ะ
Until next time…