Mono Sei Omakase ราคา 12,000 baht

Mono Sei Omakase ร้านโอมากาเสะ ที่พรีเมียมขั้นสุด ราคาคนละ 12,000 บาท++ มีอาหารญี่ปุ่นทั้งหมด 26 คอร์ส อยากรู้ว่ามีอะไรบ้าง premium ขนาดไหน ตามไปชมกันค่ะ

Mono Sei

973 G Floor, InterContinental Hotel, Phloenchit Rd. Lumpini, Pathumwan, Bangkok 10330
Tel. 094-654-6326
E-mail: reservation@monosei.com
https://www.monosei.com/
Opening hours: 6 pm – 11 pm
Closed on Mondays

ร้านอาหารญี่ปุ่น Mono Sei (โมโน เซอิ) อยู่ที่โรงแรม InterContinental Bangkok ราชประสงค์ ฝั่งเดียวกับ Fireplace Grill & Bar สามารถจอดรถที่อาคารจอดรถของโรงแรมได้เลยค่ะ  ร้านหยุดทุกวันจันทร์ เปิดให้บริการเฉพาะช่วงเย็น โดยลูกค้าจะต้องทำการสำรองที่นั่งก่อนล่วงหน้า ประมาณ 3-5 วัน  เนื่องจากร้านสามารถรองรับลูกค้าได้ 20 ท่านต่อวัน และที่สำคัญร้านนี้เสิร์ฟอาหารแบบ Omakase จึงจะต้องมีการเตรียมวัตถุดิบไว้ก่อน

Omakase คืออะไร

Omakase (โอมากาเสะ) คือการที่เราไปนั่งกินอาหารญี่ปุ่น แบบไม่มีเมนูให้เลือก อาหารจะถูกเสิร์ฟตามฤดูกาล และตามใจเชฟ ขึ้นอยู่กับว่า ช่วงเวลานั้น ๆ มีวัตถุดิบอะไรที่เชฟอยากนำมาปรุงและเสิร์ฟให้กับลูกค้า  ซึ่งแน่นอนว่า เราจะนั่งอยู่ที่หน้าเคานเตอร์บาร์ โดยมีเชฟยืนทำอาหาร ปั้นซูชิ ฯลฯ ให้เราได้เห็นกันตลอดเวลา

Mono Sei Omakase

สำหรับร้าน Mono Sei จะมีคอร์สราคาเดียวคือ คนละ 12,000 B++ มีอาหารทั้งหมด 26 จาน  โดยใช้เวลาในการเสิร์ฟตั้งแต่ต้นจนจบประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง – 3 ชั่วโมง  เมนูอาหารจะอิงตามตลาดปลาญี่ปุ่น ช่วงเดือนไหนมีวัตถุดิบอะไรดีหรือพิเศษ เชฟก็จะนำมาปรุงอาหารให้เราได้กินกัน

Japanese chef

เชฟชาวญี่ปุ่นที่ร้าน โมโน เซอิ มีหลายท่าน  เชฟที่มาดูแลบุ๊งคืนนี้คือ Chef Akihisa Watanabe เราเรียกเชฟว่า เชฟวาตานาเบซัง ก็ได้ค่ะ แต่เวลาเชฟแนะนำตัวเอง บอกว่า ชื่อ เชฟอากิ ซึ่งสามารถเรียกได้ทั้งสองชื่อ  เชฟเป็นคนญี่ปุ่นก็จริง แต่พูดภาษาไทยได้เล็กน้อย เวลาที่เสิร์ฟอาหาร ก็จะแนะนำแต่ละเมนูเป็นภาษาไทย หากมีอะไรอยากถามเชฟ ก็ถามเป็นภาษาไทยได้เลยค่ะ

Welcome drink

เมื่อเข้าไปนั่งที่โต๊ะเรียบร้อย พนักงานจะนำ welcome drink มาเสิร์ฟ เป็นเหล้า yuzu ผสมกับ sparkling ออกรสหวานนิดเดียว มีกลิ่นหอมยูซุ และซ่าหน่อย ๆ ชื่นใจ

คอร์สที่ 1 – 3 มาเสิร์ฟพร้อมกันในถาดเดียว โดยเริ่มจาก

Agedashi Goma Tofu

Deep fried sesame tofu เต้าหู้งาญี่ปุ่นเคล้าแป้งบาง ๆ นำไปทอด  เนื้อเต้าหู้นุ่ม เหนียว หอม กินกับซอสออกรสเค็มนิด ๆ รสชาติกำลังดี

Madai no Nikogori

เนื้อปลา Madai นำมาทำเป็น jelly โดยส่วนของเจลลี่เป็นน้ำซุปที่ทำจากก้างปลาและหัวปลา เสิร์ฟแบบเย็น ออกแนวคอลลาเจนจากธรรมชาติ

Jagaimo to Beats no Reisei soup

ซุปมันฝรั่งใส่บีทรูท ทำให้ได้สีชมพูจากธรรมชาติ เสิร์ฟแบบเย็น เป็นครั้งแรกที่กินซุปมันฝรั่งแบบเย็น แต่ขอบอกว่ากินแล้วสดชื่นดีมากเลย หอมมันฝรั่งนวล ๆ

Nama Kaki

Fresh oyster wiht vinegar sauce หอยนางรมสดจากจังหวัด Iwate (อิวาเตะ) เสิร์ฟเย็น  เนื้อหอยนางรมหวาน น้ำซอสออกรสเปรี้ยวนำ แต่ไม่เปรี้ยวแหลม กินแล้วสดชื่นอีกแล้วจานนี้

Tsukuri

Assorted sashimi ซาชิมิ 3 อย่าง จากซ้ายไปขวา กุ้งโบตั๋น ปลาฮิราเมะ และ Chutoro เนื้อปลาทูน่าส่วนที่มันแทรกค่อนข้างเยอะ นุ่มละลายในปาก  

ในจานมีก้านดอกไม้อยู่ เชฟบอกว่าให้เอามาวางบนมือแล้วตบเบา ๆ จะได้กลิ่นหอม แล้วนำก้านดอกไม้จิ้มโชยุนิดนึง สามารถกินได้ทั้งก้าน  อันนี้ต้องลองเลยค่ะ เพราะกลิ่นหอม ถูกใจบุ๊งเป็นอย่างมาก  

อีกอย่างคือ โชยุ ที่เสิร์ฟมาด้วยกัน เป็น shoyu จาก Kyushu (คิวชู) ออกรสหวานนิด ๆ บุ๊งชอบมากเลย

Ankimo

Monk fish liver ตับปลามังค์ฟิช ในซอสดาชิ  ตับปลาเนื้อจะนุ่มกว่า ตับไก่ แต่ไม่นุ่มมากเท่าฟัวกราส์  จานนี้ไม่มีกลิ่นคาวเลย ทำได้ดีค่ะ ซอสดาชิมาแบบร้อน ๆ

Kegani

Hairy crab with vinegar sauce ปูขนนำไปนึ่ง ด้านบนคือมันปู เสิร์ฟพร้อมซอสที่ทำจากน้ำส้มสายชู ออกรสเปรี้ยวนำ น้ำซอสมาแบบเย็น ๆ 

คอร์สนี้มาพร้อม ไข่ตุ๋นญี่ปุ่น ด้านบนคือเนื้อปูขน นุ่ม อร่อย หอมด้วยค่ะ

Anango Tempura Uni Caviar Nose

ปลาไหลทะเล (Anago) นำไปทำเทมปุระ ด้านบนคือไข่หอยเม่น ตามด้วยไข่ปลาคาเวียร์   ถ้าเป็นคำว่า Anago คือปลาไหลทะเลค่ะ  ส่วนอีกแบบที่เราเคยได้ยินหรือได้ชิมกัน ที่เรียกกันว่า Unagi คือปลาไหลน้ำจืดนั่นเอง

Yuzu Sherbet

คั่นเวลาก่อนจะไปต่อซูชิด้วย ไอศกรีมเชอร์เบทที่ทำจากส้มยูซุ รสเปรี้ยวนำ ชื่นใจ

Sushi

Shima Aji

Jack Fish ซูชิปลากะมง ด้านบนเชฟใส่ miso และต้นหอมญี่ปุ่น  คำนี้กลิ่นมิโซะหอมดีค่ะ

เวลากินซูชิ เราใช้มือหยิบกินแบบนี้เลยค่ะ ไม่ได้ใช้ตะเกียบ  และทางร้านจะมีเตรียมผ้าเย็นผืนเล็ก ๆ ไว้สำหรับเช็ดนิ้วหลังจากกิน sushi เสร็จแล้ว

Akami Zuke

ซูชิปลาอากามิ หรือปลาทูน่าส่วนที่ไม่มีมัน เนื้อเป็นสีแดง เชฟทางโชยุให้เรียบร้อยบาง ๆ โรยด้วยงา

Kuruma Ebi

กุ้งลายเสือ (tiger prawn) เสิร์ฟมาแบบครึ่งตัว 2 คำ  คำด้านซ้ายทาด้วยโชยุหรือซีอิ๊วญี่ปุ่น  ส่วนคำขวามือ โรยด้วยเกลือ Himalayan ที่เป็นสีชมพูเล็กน้อย กุ้งลายเสือ เนื้อกรุบนิด ๆ บุ๊งชอบแบบทาด้วยโชยุมากกว่า

Aburi Nodoguro Kodonburi

Light baked Nodoguro with fish soup  เนื้อปลาโนโดกุโระ หรือ ปลากะพงคอดำ นำไปอบจนสุกกำลังดี เสิร์ฟในน้ำซุปปลาใส่สาเก ซุปถ้วยนี้หวานมากค่ะ เชฟบอกว่า ไม่ได้ใส่น้ำตาลเลยแม้แต่น้อย  และยังมีกลิ่นหอมของผิวส้ม yuzu ขูดอีกด้วย

Mushi Awabi

Steamed abalone with homemade sauce  หอยเป๋าฮื้อนึ่ง เสิร์ฟพร้อมซอสโฮมเมด 2 แบบ  ซอสที่เป็นสีเขียวเข้มคือ ตับเป๋าฮื้อผสมสาหร่าย  ออกแนวครีมมี หอม มัน  ส่วนซอสที่เป็นสีเขียวอ่อน ทำจากตับเป๋าฮื้อผสมไข่แดง ถ้วยนี้จะเข้มข้นกว่า

เนื้อหอยเป๋าฮื้อไม่เหนียวเลย เคี้ยวง่าย ออกแนวนุ่มและกรุบ

หลังจากที่กินหอยอะบาโลน (เป๋าฮื้อ) หมด  เชฟก็จะถามว่า เราชอบซอสอะไรมากกว่า บุ๊งเลือกซอสที่ผสมไข่แดง  จากนั้นเชฟก็ปั้นข้าวซูชิมาให้กินควบคู่กับซอสที่เราเลือก อร่อยมาก ๆ

Shabu

คอร์สต่อไปเป็นชาบูแล้วค่ะ  ซอสที่เอาไปกินกับชาบูมี 2 อย่าง  ถ้วยสีขาวคือ ซอสงา ส่วนสีดำคือ ซอส ponzu (พอนสึ)

Taraba Kani

King Crab หรือปูทาระบะ วัตถุดิบที่ขึ้นชื่อของประเทศญี่ปุ่น  เนื้อปูทาระบะไม่เค็มเลยแม้แต่น้อย  ออกไปทางหวานด้วยซ้ำค่ะ

Matsuzaka Gyu no Shabu Shabu

เนื้อมัตสึซากะ สไลซ์บาง นำไปทำชาบู เนื้อนุ่มมาก ๆ

Mozuku Su

สาหร่ายเส้นผม ใส่มันมือเสือ และไข่ปลาแซลมอน  เสิร์ฟแบบเย็น  ออกรสเปรี้ยวนิด ๆ

Madai

ซูชิปลามะได ด้านบนคือ yuzu jelly ออกรสเปรี้ยวหวาน  คำนี้บุ๊งชอบมาก กลิ่นยูซุ เข้ากันดีกับซูชิมากมาย

Otoro

ซูชิปลาโอโทโร่  คำนี้ที่รอคอย  Otoro คือปลาทูน่าส่วนที่มีมันมากที่สุด เนื้อปลานุ่มสุด ๆ ละลายในปลายิ่งกว่า ชูโทโร่  เชฟใส่วาซาบิไว้ด้านบนไว้ให้ด้วย คำนี้ฟินมาก เป็นโอโทโร่แบบของแท้แน่นอน

นี่คือครั้งแรกที่อ๊อตโต้และโอเว่นจะได้ชิม Otoro sushi  

Uni

นี่ก็เป็นอีกอย่างที่บุ๊งรอคอยค่ะ  Uni อุนิ หรือไข่หอยเม่น (sea urchin roe)  เชฟนำวัตถุดิบมาให้ดู  ว่าเดี๋ยวเราจะได้กินอันนี้นะ

ในถ้วยนี้มี 2 ส่วน  ด้านบนคือ ไข่หอยเม่น Murazaki (มุราซากิ)  ส่วนด้านล่างคือ ข้าวซูชิผสมไข่หอยเม่น Bafun (บะฟุน) สำหรับ Murazaki Uni มาเป็นชิ้น มีความครีมมี นุ่ม เนียน หอมมาก ๆ  กินกับข้าวด้านล่างที่มีรสชาติ เปรี้ยวนิด เค็มหน่อย ถ้วยนี้ฟินมาก พูดเลย

Anago

ซูชิหน้าปลาไหลทะเล ทาด้วยซอสที่ออกรสหวานนำ

Shiro Ebi

White shrimp บุ๊งชอบถ้วยนี้มาก ในถ้วยมีส่วนประกอบหลายอย่าง  แต่วัตถุดิบหลักคือ white shrimp หรือกุ้งขาวนั่นเอง

ด้านล่างคือข้าวซูชิคลุกเคล้ากับเนื้อปูขน topped ด้วย เนื้อกุ้งขาว Uni หรือไข่หอยเม่น เพิ่มความครีมมี มีไข่ปลาคาร์เวียร์ วาซาบิ ไข่ปลาแซลมอน และแผ่นทองคำ  ถ้วยนี้มีความเป็นทะเลสูงมาก อร่อยค่ะ

Lobster

กุ้งล็อบสเตอร์  ยังมาแบบเป็น ๆ อยู่เลย

ข้าวผสมเนื้อปูขน กินกับเนื้อกุ้งล็อบสเตอร์นึ่งสุกกำลังดี

Miso soup

Otto และ Owen ชอบกินซุปมิโซะมาก

Maki roll

ข้าวห่อสาหร่ายไส้ปลา Maguro (มากุโระ) หอมสาหร่ายมากเลย

Tamagoyaki

ไข่หวานย่าง  มาแบบ surprised เด็ก ๆ มาก สองหนุ่มอ๊อตโต้ โอเว่น ไม่คิดว่ามันคือไข่หวาน ชิ้นนี้มีส่วนผสมของ กุ้ง มันญี่ปุ่น และไข่  texture คล้ายเนื้อเค้ก sponge นุ่ม ไม่หวานมาก ด้านบนประทับตราชื่อร้าน Mono Sei ด้วย

ชา Hojicha ร้อน ไว้ดื่มคู่กับตอนกินขนมหวาน 

Desserts

เข้าสู่คอร์สขนมหวานแล้วค่ะ

Fruit Daifuku

ไดฟุกุ ด้านในเป็นไส้ muscat หรือองุ่นขาวของญี่ปุ่น ลูกใหญ่ หวานฉ่ำมาก ๆ แป้งไดฟุกุนุ่ม ด้านในมีสอดไส้ถั่วแดงบดด้วย  เด็ก ๆ ชอบขนมหวานจานนี้กันมากมาย

Anmitsu

ถ้วยนี้มีส่วนประกอบหลายอย่าง  ได้แก่ แป้งโมจิที่นุ่มมาก ถั่วแดงบด ไอศกรีมวนิลา ผงถั่ว kinako เสิร์ฟพร้อม น้ำเชื่อมที่ทำจากน้ำตาลทรายแดง  ไว้ให้เราใส่เพิ่มความหวานเองตามใจชอบ  บุ๊งชอบถ้วยนี้ หอมน้ำตาลทรายแดงมาก ๆ

ระหว่างที่กำลังนั่งกินเพลิน ๆ ก็จะมีคนมาขอถ่ายรูปเก็บไว้  พอเรากินเสร็จครบทุกคอร์ส ทางร้านจะนำรูปมาให้เราเซ็นชื่อแบบนี้ค่ะ น่ารักจัง

ก่อนกลับขอถ่ายรูปกับเชฟ Aki สักหน่อย

มื้อนี้ประทับใจมากมาย  สำหรับราคาเท่านี้ กับวัตถุดิบที่มีความ premium ทุกอย่างได้รับการคัดสรรมาอย่างดีโดยเชฟมากฝึมือชาวญี่ปุ่น เป็น Omakase ที่ดีงามมากค่ะ

Until next time…