Nikuyama Bangkok | Omakase เนื้อ ญี่ปุ่น ร้านแรกในประเทศไทย สาวกเนื้อญี่ปุ่นรับรองว่าฟินแน่นอน เพราะเชฟคัดสรร Japanese beef มาปรุงอาหารหลากหลายเมนู มื้อเดียวได้กินเนื้อญี่ปุ่นหลายแบบเลยแหละ
Rain Hill, Sukhumvit 47, Khlong Tan Nuea, Watthana Bangkok, Thailand 10110
Tel. 02 126 6822
www.facebook.com/Nikuyama.Bangkok
Omakase hours: 5 – 10.30 pm
ร้านโอมากาเสะ เนื้อญี่ปุ่น แห่งแรกในประเทศไทย ถือว่าเป็นผู้นำเทรนด์การกินเนื้อญี่ปุนแบบ omakase เลยก็ว่าได้ ร้านตั้งอยู่ที่ชั้น 1 ของ Rain Hill สุขุมวิท 47 เดินทางไม่ยาก จอดรถที่โครงการได้เลยค่ะ
Omakase เนื้อ ญี่ปุ่น คือการที่เชฟจะปรุงอาหารเสิร์ฟแบบจานต่อจาน โดยขึ้นอยู่กับว่า วันนั้นมีวัตถุดิบอะไร และมีเมนูอะไรบ้าง ซึ่งก็คือการเสิร์ฟอาหารตามใจเชฟนั่นเอง ที่ร้านนิคุยามะ นำเข้าเนื้อวัวจากญี่ปุ่น และเน้นใช้เนื้อ A3 เป็นหลัก ถือว่าเป็นร้านที่ทำให้คนไทยรู้จักการบริโภค เนื้อญี่ปุ่น A3 (Japanese beef A3) เลยก็ว่าได้
Head chef หรือเชฟใหญ่ของ Nikuyama Bangkok คือ Chef Takahiro Aizaki (เชฟ ทาคาฮิโระ ไอเซกิ) หรือหากจะเรียกสั้น ๆ คือ ไอเซกิเชฟ ก็ได้ค่ะ เป็นคนญี่ปุ่นแท้ ๆ พูดภาษาไทยยังไม่ค่อยได้ และภาษาอังกฤษได้นิดหน่อยค่ะ
ร้าน Nikuyama Bangkok (นิคุยามะ กรุงเทพฯ) เสิร์ฟ Omakase เนื้อ เป็นคอร์ส มีเฉพาะมื้อเย็น แบ่งเป็นรอบ ทั้งหมด 5 รอบ เริ่มตั้งแต่ 5 pm, 6 pm, 7 pm, 8 pm, และรอบสุดท้ายเริ่มที่ 9 pm
สำหรับ Everest course ที่บุ๊งกินวันนี้ ราคา 2,400 baht++ ต่อคน มีอาหารทั้งหมด 12 คอร์ส ควรโทรจองล่วงหน้า 1 วัน เพื่อที่เชฟจะได้เตรียมวัตถุดิบให้พร้อมค่ะ และเนื่องจากที่นั่งมีไม่เยอะมาก ประมาณ 12-14 คน ต่อรอบ ดังนั้นควรจองก่อนดีที่สุด
คอร์สแรกเป็นอาหารเรียกน้ำย่อย เสิร์ฟในกล่องข้าวแบบญี่ปุ่น มีอาหาร 4 อย่าง เสิร์ฟแบบเย็น ได้แก่
Wagyu Beef Roast
เนื้อวากิวส่วนสะโพกนำไปอบ ประมาณ medium แล่บาง เสิร์ฟเย็น พร้อมซอสเจลลี ทำจาก โชยุ มิริน สาเก และ ดาชิ เนือวัวเป็นแบบ lean เนื้อแดง ยังคงมีความ chewy คือต้องเคี้ยวแต่ไม่เหนียว ซอสรสไม่จัดมาก เค็มนิด ๆ
Pate de campagne
ปาเต้ตับไก่และตับหมูบดรวมกัน ปรุงรสไม่จัดมาก ควรกินคู่กับซอสพริกที่เชฟเสิร์ฟมาด้านบนปาเต้ มีรสเผ็ดและเปรี้ยวนำ
Flavored Ground Wagyu Beef
เนื้อวากิวบดปรุงรส เค็มนิด หวานหน่อย เสิร์ฟพร้อมมะเขือเทศเชอรี่เย็น ๆ กินแล้วสดชื่น
Simmerd beef tongue
ลิ้นวัวตุ๋นเป็นเวลานานจนเปื่อยนุ่ม ซอสที่มาด้วยกันคล้ายพริกเซี่ยงไฮ้ เค็ม หวาน และเผ็ด ลิ้นวัวนุ่มมากถึงมากที่สุด อร่อยค่ะ
ไข่ตุ๋นญี่ปุ่น เนื้อนุ่มเนียน ใส่เห็ดชิเมจิ น้ำสต็อคที่ใช้ทำไข่ตุ๋นคือ ดาชิ (ปลาแห้ง) และน้ำสต็อคเนื้อ กินแล้วมีความแตกต่างจากไข่ตุ๋นร้านอื่น ๆ ที่เคยกินมา เพราะกลิ่นหอมของเนื้อนี่แหละค่ะ
ซูชิเนื้อวากิว คำนี้ special มาก ๆ ข้าวซูชิปรุงรสมาแบบไมเปรี้ยวโดด แต่กลมกล่อม ไม่จัดมาก ด้านบนท็อปด้วยเนื้อวากิว ส่วน Tomosankaku หรือ tri-tip หรือ เนื้อ A3 ส่วนต้นขาด้านนอก ด้านบน topped ด้วย เห็ดทรัฟเฟิลฝานเป็นแผ่น ตามด้วยแผ่นทองคำ
ข้าวซูชิปรุงรสมากำลังดีมาก ๆ ไม่เข้มเกินไป และไม่เปรี้ยวเกิน กินกับเนื้อ tomosankaku สไลซ์บาง เบิร์นเล็กน้อย ยิ่งใส่เห็ด truffle ยิ่งเพิ่มกลิ่นหอมให้กับจานนี้ค่ะ
ปกติเมืองไทยจะไม่ให้นำเข้าเนื้อหมูจากต่างประเทศ แต่ตอนนี้ไทยเปิดให้นำเข้าเนื้อหมูได้จากประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศแรก ดังนั้นจานนี้ ไอซากิเชฟ ใช้เนื้อหมูจากคาโกชิมา นำมาผ่านกรรมวิธีตามแบบของเชฟ และ อบ จนเนื้อหมูสุก นุ่ม เสิร์ฟพร้อมเกลือ 2 แบบ คือ Himalayan black salt (เกลือหิมาลายันสีดำ) รสจะแหลมกว่า และ Himalaya pink salt (เกลือหิมาลายันสีชมพู) ที่เชฟบอกว่าเหมาะที่จะกินคู่กับผัก ในจานนี้มีเห็ดออเรนจิย่างมาให้ด้วย
ถึงแม้ว่าเนื้อหมูจะไม่มีมันเลย ยังคงมี texutre ให้เคี้ยว แต่หมูนุ่มมาก เห็นเนื้อหมูเป็นสีชมพูแบบนี้ แต่เชฟปรุงมาสุกแล้วค่ะ
เนื้อวัวเขาสั้นจากจังหวัด อิวาเตะ เป็นส่วน bottom round (สะโพก) ย่างสุกแบบ medium rare สไลซ์บาง เพราะเชฟบอกว่า เนื้อส่วนนี้จะค่อนข้างเหนียว เพราะมันน้อย การสไลซ์บางทำให้กินง่ายขึ้น
จากนี้ได้มีเนื้อญีปุ่่น 3 ชิ้น และ ไชเท้าย่าง ซอสที่มาด้วยกันคือ red wine shoyu sauce ซอสไวน์แดงและโชยุ กินกับเนื้อย่าง เพิ่มรสเค็มนิด ๆ และกลิ่นหอมให้กับเนื้อ แต่จริง ๆ ตัวเนื้อเองมีความหอมอยู่แล้วค่ะ ด้วยความที่เป็นเนื้อแดงแบบ lean คือไขมันน้อย เนื้อจึงออกไปทาง chewy นิด ๆ แต่ไม่ได้เคี้ยวยากแต่อย่างใด
สเต็กเนื้อฮารามิ หรือเนื้อส่วนกระบังลม (skirt steak) คนญี่ปุ่นถือว่าเนื้อส่วนนี้เป็นเครื่องใน เพราะอยู่ส่วนด้านในใกล้ปอด เสิร์ฟพร้อมวาซาบิสด และ ซอสไข่แดงโชยุ จานนี้คือจานที่บุ๊งชอบมากที่สุดในบรรดาทั้งหมด 12 คอร์สเลย เนื้อฮารามินุ่มมาก ย่างสุกกำลังดี ไม่เหนียว
Egg yolk soy sauce ซอสไข่แดงโชยุ มีความพิเศษตรงที่ใช้ไข่ไก่ของญี่ปุ่นชื่อ Mori-Tama (โมริทามะ) ซึ่งมีความสดมาก ไข่ไก่สดสังเกตได้จาก ความกลมของไข่แดง กลมเหมือนเป็นลูกบอลเลยค่ะ ก่อนกินก็ตีไข่แดงผสมกับโชยุ ปริมาณโชยุที่เชฟให้มาพอเหมาะ กำลังดี ไม่เค็มเกินไป
เอาเนื้อฮารามิจิ้มไข่แดง คืออร่อยมาก ไข่แดงเพิ่มความหอม มันให้กับเนื้อ กินด้วยกัน เข้ากันสุด ๆ ซอสไข่แดงอย่าเพิ่งกินหมดนะคะ สามารถเก็บไว้กินกับเนื้อคอร์สต่อ ๆ ไปได้อีก
เนื้อวากิว A3 สไลซ์บาง นำมาทำชาบู เสิร์ฟพร้อมซอสพอนสึผสมงาบด รสเปรี้ยวนำ หอมงา เนื้อชาบูนุ่มมากเลยค่ะ
เนื่องจากเป็นร้านโอมากาเสะ เชฟจะเสิร์ฟอาหารตามวัตถุดิบที่คัดสรรได้ในแต่ละวัน ซึ่งวันที่บุ๊งไป มีเนื้อญี่ปุ่น A5 ด้วย เชฟจึงนำมาสไลซ์บางและทำชาบู บอกเลยว่า เนื้อ A5 นุ่มมากถึงมากที่สุด
เนื้อวากิวเขาสั้น จากจังหวัดอิวาเตะ เป็นเนื้อส่วน Shin Shin หรือ เนื้อด้านในส่วนต้นขา ซึ่งเป็นส่วนที่นุ่มที่สุด เทียบเท่าคล้ายกับ fillet เชฟย่างสุกประมาณ medium rare เสิร์ฟพร้อม ซอสเกาหลีเรียกว่า Yang Nyeon sauce ที่เชฟสั่งซื้อมาจากคนเกาหลีที่อาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่น เหมือนพริกเกาหลี ที่ไม่หวาน
จานนี้มี grilled eggplant มาด้วย ซึ่งมะเขือม่วงนี้ เรียกว่า Maru Nasu คำว่า Nasu แปลว่า มะเขือม่วง คำว่า Maru แปลว่า กลม เชฟนำเข้ามะเขือม่วงนี้จากจังหวัด Niigata ช่วงนี้เป็นฤดูกาลของมะเขือม่วงพันธุ์นี้ ซึ่งเป็นช่วงที่อร่อยที่สุด มะเขือม่วงย่างนุ่มมาก ๆ ๆ ๆ
Gyukatsu หรือ เนื้อฮอกไกโดคัดสึ (ชุบเกล็ดขนมปังทอด) เสิร์ฟพร้อมเกลือทรัฟเฟิล เนื้อกรอบนอก นุ่มใน ไม่เหนียว แตะเกลือนิดเดียวพอค่ะ กลิ่นหอมฟุ้งกระจายในปากเลย
เนื้อฮอกไกโดขนดำ (Hokkaido Kuroge beef) ส่วนขาหน้า เรียกว่า Ude เป็นเนื้อ A3 ส่วนที่มีมันแทรกอยู่ นำมาย่างจนได้ความสุกมีเดียมแรร์ เชฟบอกว่าจานนี้เสิร์ฟเนื้อพร้อม Uni หรือ sea urchin ซึ่งก็คือไข่หอยเม่นจาก Hokkaido เพื่อเพิ่มมิติให้กับเนื้อ
ตัวเนื้อเองมีรสชาติในตัวอยู่แล้ว พอกินคู่กับ uni ยิ่งเพิ่มความหอมมัน เข้ากันมาก หัวไชเท้าแผ่นกลมสีขาว เชฟนำไปทำเป็น oden ก่อน จากนั้นค่อยนำไป pan-fried กับน้ำมันที่ได้จากการทอดลิ้นวัว หัวไชเท้าจึงนุ่มและมีกลิ่นหอมของเนื้อ
คอร์สที่ 11 มีให้เลือกระหว่าง ข้าวแกงกะหรี่เนื้อ หรือ ข้าวน้ำชา อ๊อตโต้และโอเว่นเลือกข้าวแกงกะหรี่เนื้อ รสเข้มข้น จัดจ้านเลยค่ะ แอบเผ็ดเล็กน้อย แต่เด็กสองคนก็กินไป ดื่มน้ำไป กินเกลี้ยงชาม
ส่วนบุ๊งเลือก ข้าวน้ำชา หรือ chazuke คือคนญี่ปุ่นเวลากินอาหารเสร็จ และมีข้าวเหลือ จะเทน้ำชาร้อน ๆ ใส่ลงไปในข้าว เดี๋ยวนี้เห็นบอกว่า ใช้เป็นน้ำซุปดาชิซะส่วนใหญ่ ในถ้วยนี้เชฟนำเนื้อ A5 สไลซ์บางมาวางไว้บนข้าวญี่ปุ่น แล้วเทน้ำซุป dashi ร้อน ๆ ลงไปบนเนื้อ ทำให้เนื้อค่อย ๆ สุก ถ้วยนี้ควรรีบกินเนื้อก่อนที่จะสุกเกินไป เพราะน้ำซุปร้อนมากจริง ๆ
บอกเลยว่า ข้าวถ้วยนี้อร่อยมาก เนื้อนุ่มมมมละลายในปาก น้ำซุปหอม คือกินหมดแล้วอยากได้เพิ่มอีกถ้วยเลยค่ะ
คอร์สสุดท้ายเป็นขนมหวาน ไอศกรีม yuzu (ส้มยูซุ) ทำเป็นซอร์เบท์ ไม่มีส่วนผสมของครีม รสเปรี้ยวนำ สดชื่นมาก ๆ ค่ะ
หากใครอยากลองประสบการณ์ โอมากาเสะ เนื้อ แนะนำว่าไปลองที่ร้าน Nikuyama Bangkok ไม่ผิดหวังแน่นอน เชฟมี skill ในการปรุงเนื้อ A3 ได้ดีมากเลยค่ะ
Until next time…
Lahnyai Nusara หลานยาย นุสรา หนึ่งในร้านอาหารไทยของเชฟต้นแห่ง Le Du เชฟอาหารไทย มิชลิน 1 ดาวนำเสนอ อาหารไทย สูตรดั้งเดิมชาววัง โดยใช้เทคนิคการปรุงอาหารแบบตะวันตก แต่ละจานมีลูกเล่นและเสน่ห์ความเซอร์ไพรส์ https://youtu.be/AH8VocgrWKg\ Lahnyai Nusara หลานยายนุสรา…
บุฟเฟ่ต์ อาหารญี่ปุ่น Miyagi Fuji Super 39 รวมซูชิ โอโทโร่ ชูโทโร่ อากามิ แบบไม่อั้น อันนี้ดีงามจริง ข้าวซูชิปรุงรสดี ไม่ปั้นข้าวบีบแน่นจนเกินไป https://youtu.be/inzLKmEHPmo…
เมนูใหม่ล่าสุดของ เชฟต้น แห่ง LE DU ร้านอาหารไทยที่ได้รับ 1 Michelin Star และติดอันดับ 40 World's 50 Best Restaurant…
มื้อค่ำสุด exclusive @ Restaurant POTONG | 1 MICHELIN Star เชฟแพม ร่วมกับ AWC Thailand จัด charity dinner…
Ramenga ราเมงอะ ラーメン ราเมงเส้นสด ราคาไม่แรง ฟีลญี่ปุ่นแบบกินได้ทุกวัน ที่น่าสนับสนุนที่สุด คือ โครงการปันอิ่ม แจกราเมงฟรีทุกสาขา ๆ ละ 10 ชาม คลิปรีวิวร้าน ราเมงอะ ラーメン…
สำรับมื้อกลางวัน ใหม่ล่าสุดที่ Front Room | Waldorf Astoria Bangkok กับราคานี้ ปริมาณเท่านี้ คุณภาพระดับนี้ คือคุ้มมากสำหรับ Waldorf Front RoomWaldorf Astoria Bangkok Lower…
This website uses cookies.