Steakhouse

Rib Room & Bar, a nice rooftop and steakhouse in Bangkok

Rib Room & Bar (RR&B), a nice rooftop and steakhouse in Bangkok ร้านสเต็กสุดหรู บนถนนสุขุมวิท บรรยากาศดีพร้อมวิวเมืองยามค่ำคืนแสนโรแมนติก และได้รับรางวัล The Plate จาก The Michelin Guide Bangkok ปี 2018

Rib Room & Bar (RR&B)

The Landmark Bangkok

Sukhumvit Road, Bangkok

Tel. 0-2254-0404

https://www.landmarkbangkok.com/rib-room-and-bar

Rib Room & Bar อยู่ชั้น 31 ของโรงแรม The Landmark Bangkok เป็นร้าน steakhouse ที่อยู่คู่กับกรุงเทพฯ มานาน  พร้อมวิว rooftop ที่บุ๊งบอกเลยว่ามีความโรแมนติกมาก  ห้องอาหารนี้ได้รับรางวัล The Plate ปี 2018 จากมิชลินไกด์ กรุงเทพ นั่นหมายถึงเป็นร้านอาหารคุณภาพดีที่ใช้วัตถุดิบสดใหม่และปรุงอย่างพิถีพิถัน

Steakhouse in Bangkok

บุ๊งไปถึงประมาณ 5.30 pm ใกล้เวลาพระอาทิตย์ตกดิน ท้องฟ้าประมาณนี้  การตกแต่งภายในร้านเป็นโทนสีแดง  พร้อมกระจกบานใหญ่รอบห้องอาหาร เราจะมองเห็นวิวแบบมุมกว้าง  ภายในเป็นครัวแบบเปิด หรือ open kitchen ที่เราสามารถมองเห็นเชฟเตรียมและปรุงอาหาร

สักครั้งในชีวิตที่เราอยากกินสเต็กเนื้อคุณภาพดี จากฝีมือเชฟที่มากประสบการณ์กว่า 30 ปี  ซึ่งตอนนี้ห้องอาหาร Rib Room & Bar (RR&B) โรงแรมแลนด์มาร์ค กรุงเทพฯ จัดชุด 3-course set menu ในราคาที่จับต้องได้ คนละ 2,000 B++ โดยในเซ็ทมี appetizer อาหารเรียกน้ำย่อย, main course อาหารจานหลัก และ dessert ขนมหวาน  พร้อมชาหรือกาแฟ  หากใครอยากทานเมนูอื่นนอกจากเนื้อวัว  ก็มีเมนูอื่น ๆ ให้เลือกอีกหลายแบบ  ไม่ว่าจะเป็น ปลาหิมะ อกไก่ และพาสต้าเส้นสดกุ้งล็อบสเตอร์  หลังจากสั่งอาหารเสร็จเรียบร้อย  พนักงานจะนำขนมปังโฮมเมดมาเสิร์ฟที่โต๊ะ  มีให้เลือก 3 แบบ  บุ๊งเลือก Cranberry ที่ใส่ walnuts ด้วย อร่อยมากกกกกก  แอบชอบเตาอบพิซซาจัง

มื้อนี้พาอ๊อตโต้และโอเว่นมาด้วย  บุ๊งก็เลยสั่ง Spaghetti Carbonara ให้สองหนุ่ม

หน้าตาดูดีมาก และรสชาติก็ดีเช่นกัน

แน่นอนว่าสเต็คทานคู่กับไวน์เข้ากันอย่างที่สุด ที่นี่มีไวน์หลากหลายให้เลือกดื่ม  บุ๊งขอให้เค้าช่วยแนะนำไวน์ให้  โดยไวน์ขาวดื่มคู่กับอาหารเรียกน้ำย่อย และจะมีไวน์แดงไว้สำหรับดื่มตอนทานสเต็กเนื้อ  ซึ่งไวน์จะไม่รวมอยู่ในเซ็ท ที่บุ๊งสั่งคือเป็นแบบราคาต่อแก้วอยู่ที่ 460 – 540 B



อันดับแรกคือ Amuse-bouche ซึ่งเป็นเหมือนอาหารเรียกน้ำย่อยแบบขนาดพอดีคำ (bite size) โดยในแต่ละวันจะไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับว่าเชฟทำอะไร

3-Course Set Menu @2,000 B++

วันนี้บุ๊งมาทาน 2 เซ็ท ดังนั้นจะมีอาหารเรียกน้ำย่อย 2 อย่าง อาหารจานหลัก 2 จาน และขนมหวาน 2 จาน  สำหรับ Appetizers บุ๊งเลือกเป็น Rib Room Caesar Salad ที่จะมาปรุงน้ำสลัดกันสด ๆ ที่โต๊ะ (prepared at table side)  ทั้ง Otto & Owen ตื่นเต้นมาก ไปยืนดูพี่สาวคนสวยปรุงน้ำสลัดอย่างใจจดใจจ่อ  ก่อนลงมือทำพนักงานจะถามเราว่าเราแพ้อาหารอะไรมั้ย หรือไม่อยากให้ใส่อะไรบ้างหรือเปล่า

เมื่อทำน้ำสลัดซีซาร์เสร็จ  พนักงานจะให้เราชิมก่อนว่ารสแบบนี้เราถูกใจหรือยัง ต้องการความเปรี้ยว เค็ม หรืออะไรเพิ่มหรือเปล่า  ถ้าเราชอบแล้ว เค้าก็จะคลุกเคล้าผักสลัด โรย croutons และ bacon bits ตามด้วยชีสพาร์มีซาน แล้วเสิร์ฟที่โต๊ะ

ผักกรอบ จานนี้สดชื่นมาก

อาหารเรียกน้ำย่อยอีกจานคือ Lobster Bisque ซุปข้นกุ้งล็อบสเตอร์  อร่อยมากค่ะ ซุปหอมกลิ่นทะเล ไม่คาว เข้มข้น บุ๊งชอบมากทีเดียว

เมื่อทานอาหารเรียกน้ำย่อยเสร็จเรียบร้อย จะมีการเสิร์ฟไอศกรีม sorbet ที่เล็ก ๆ สำหรับล้างปากก่อนทาน main course

มีดสำหรับทานสเต็กเนื้อ

Main course จานแรกคือ Australian Angus Beef 120 days grain fed เค้ามี 2 options ให้เลือกระหว่าง Tenderloin 200 g หรือ Rib Eye 250 g บุ๊งเลือก Tenderloin สั่งความสุกแบบ medium rare

สเต็กเนื้อแองกัสนำเข้าจากออสเตรเลียชิ้นหนา กลิ่นหอมมากค่ะ  บุ๊งว่าสเต็กที่อร่อยต้องชิ้นหนาแบบนี้ แต่ไม่เหนียว เนื้อนุ่ม ปรุงมาสุกกำลังดี

จานนี้เสิร์ฟพร้อมน้ำซอสที่ทำจากเนื้อ และมี mustard ให้ทานคู่กัน  บุ๊งชอบแบบ whole grain mustard เข้ากันขั้นสุด

ไวน์แดงทานคู่กับสเต็กเนื้อ

Main course อีกจานคือ Maine Lobster Tagliolini พาสต้าไตออลินิ เส้นพาสต้าที่มีส่วนผสมของไข่ คลุกเคล้ากับซอส Newburg เสิร์ฟพร้อมเนื้อกุ้งล็อบสเตอร์  จานนี้มีกลิ่นหอมของความเป็นทะเล ออกแนวครีมมีนิด ๆ เส้นพาสต้าอร่อยมากค่ะ

Desserts  จานแรกคือ Profiteroles au chocolate แป้งชูวส์ไส้ไอศกรีมวนิลา ราดด้วยซอสช็อคโกแลตแบบร้อน โรยอัลมอนด์สไลซ์  จานนี้โอเว่นกินเรียบ

ขนมหวานอีกอย่างคือ The “Grand Marnier Creme Brûlée” แครมบรูเลเนื้อเนียนใส่เหล้า Grand Marnier มีกลิ่นหอมของส้ม เสิร์ฟพร้อมเบอร์รีสดและส้ม  ถ้วยนี้บุ๊งจัดการคนเดียวเลย ชอบ

สั่งกาแฟมาดื่มควบคู่กับขนมหวานค่ะ  กาแฟรวมอยู่ในเซ็ทด้วย

ช็อคโกแลตและมากาฮงจานนี้คือ complimentary

ปิดท้ายมื้อด้วย Amaretto เหล้าหวานกลิ่นอัลมอนด์ เป็น complimentary เช่นกัน



มื้อนี้อาหารอร่อย บรรยากาศดีมาก ฟินกันทุกคนเลยค่ะ

Until next time…

Boonk

Recent Posts

Lahnyai Nusara หลานยาย นุสรา โดยเชฟต้น Le Du

Lahnyai Nusara หลานยาย นุสรา หนึ่งในร้านอาหารไทยของเชฟต้นแห่ง Le Du เชฟอาหารไทย มิชลิน 1 ดาวนำเสนอ อาหารไทย สูตรดั้งเดิมชาววัง โดยใช้เทคนิคการปรุงอาหารแบบตะวันตก แต่ละจานมีลูกเล่นและเสน่ห์ความเซอร์ไพรส์ https://youtu.be/AH8VocgrWKg\ Lahnyai Nusara หลานยายนุสรา…

3 months ago

บุฟเฟ่ต์ อาหารญี่ปุ่น โอโทโร่ Miyagi Fuji Super 39

บุฟเฟ่ต์ อาหารญี่ปุ่น Miyagi Fuji Super 39 รวมซูชิ โอโทโร่ ชูโทโร่ อากามิ แบบไม่อั้น อันนี้ดีงามจริง ข้าวซูชิปรุงรสดี ไม่ปั้นข้าวบีบแน่นจนเกินไป https://youtu.be/inzLKmEHPmo…

3 months ago

LE DU | 1-Michelin Star & No.40 World’s 50 Best Restaurant 2024

เมนูใหม่ล่าสุดของ เชฟต้น แห่ง LE DU ร้านอาหารไทยที่ได้รับ 1 Michelin Star และติดอันดับ 40 World's 50 Best Restaurant…

5 months ago

Restaurant POTONG มื้อค่ำสุด exclusive ณ ร้านมิชลิน 1 ดาว

มื้อค่ำสุด exclusive @ Restaurant POTONG | 1 MICHELIN Star เชฟแพม ร่วมกับ AWC Thailand จัด charity dinner…

5 months ago

Ramenga ราเมงอะ ラーメン ราเมงเส้นสด

Ramenga ราเมงอะ ラーメン ราเมงเส้นสด ราคาไม่แรง ฟีลญี่ปุ่นแบบกินได้ทุกวัน ที่น่าสนับสนุนที่สุด คือ โครงการปันอิ่ม แจกราเมงฟรีทุกสาขา ๆ ละ 10 ชาม คลิปรีวิวร้าน ราเมงอะ ラーメン…

6 months ago

สำรับมื้อกลางวัน Front Room | Waldorf Astoria Bangkok

สำรับมื้อกลางวัน ใหม่ล่าสุดที่ Front Room | Waldorf Astoria Bangkok กับราคานี้ ปริมาณเท่านี้ คุณภาพระดับนี้ คือคุ้มมากสำหรับ Waldorf Front RoomWaldorf Astoria Bangkok Lower…

8 months ago

This website uses cookies.