ครัวศรแดง จรัญฯ 13 อาหารไทยสูตรเก่าแก่ดั้งเดิม

ครัวศรแดง จรัญฯ 13 ร้านอาหารไทย สูตรเก่าแก่ ตำรับดั้งเดิมตั้งแต่สมัยคุณยาย เมนูแนะนำ ได้แก่ หมี่กรอบศรแดง หมูสะเต๊ะ ปลากะพงทอดน้ำปลา มัสมั่นเนื้อ น้ำพริกไข่ปู  ที่นี่อาหารอร่อย และที่สำคัญ ราคาไม่แพง

ครัวศรแดง จรัญฯ 13

97 ซ. จรัญฯ 13 บางแวก ภาษีเจริญ กรุงเทพฯ
Tel. 0-2865-8180
www.facebook.com/kruasorndang/

ร้านครัวศรแดงมีหลายสาขา  สาขาที่บุ๊งไปกินอยู่ใน ซอย จรัญฯ 13 ด้านในมีที่จอดรถกว้างขวางภายในร้านเป็นที่นั่งห้องแอร์ และยังมีเวทีสำหรับเล่นดนตรีสด เห็นเค้าบอกว่า มีห้องคาราโอเกะด้วยนะคะ แต่บุ๊งไม่ได้เดินไปดู ใครสนใจ อยากจัดปาร์ตี้ กินข้าว สังสรรค์ ร้องเพลง ลองไปสอบถามที่ร้านดูได้เลย

Authentic Thai food

จุดเด่นของร้านนี้คือ แม่ครัวยังคงทำอาหารโดยใช้สูตรเดิม วิธีดั้งเดิม ที่เป็นมรดกตกทอดมาตั้งแต่รุ่นคุณยาย ไม่ว่าจะเป็น น้ำจิ้มซีฟู้ดแบบตำ ไม่ได้ใช้เครื่องปั่น ทำให้ได้ความหอมของกระเทียมและพริกตำแบบไทย ๆ  หรือแม้แต่ น้ำพริก พริกแกงต่าง ๆ ก็ตำเอง  ปัจจุบันหาค่อนข้างยากแล้วค่ะ ร้านที่ยังความเป็น original แบบนี้

Signature menus

จริง ๆ อาหารแนะนำมีหลายเมนู  แต่รายการที่ขายดีประจำร้านครัวศรแดง คือ หมี่กรอบชาววัง หรือ หมี่กรอบศรแดง นั่นเอง เรียกได้ว่าเป็นเมนูที่แทบทุกโต๊ะจะต้องสั่ง  บุ๊งซื้อกลับบ้านไปฝากแม่  แม่กินแล้วติดใจ ตามมาซื้อกินเองอีก  นอกจากนี้ หมูสะเต๊ะ ก็เป็นเมนูที่บุ๊งกินแล้วปลื้มปริ่ม  ว่าแล้วไปดูหน้าตาอาหารกันดีกว่า

หมูสะเต๊ะ (120 B)

เริ่มด้วยเมนูโปรด จานนี้เด็ดมากกกก บุ๊งชอบมากเลยค่ะ ที่ร้านหมักหมูสะเต๊ะมาจนนุ่ม หอมเครื่องเทศ เนื้อหมูไม่แห้ง ไม่แข็ง น้ำจิ้มนี่คือเด็ดสุด  เพราะรสชาติเข้มข้น  หอมเครื่องแกง น้ำจิ้มข้นสะใจเลยแหละ รสไม่เผ็ดมากนัก กลมกล่อม ปกติบุ๊งเป็นคนที่ชอบกินหมูสะเต๊ะมาก ไปตระเวนกินมาหลายร้าน แต่จะมีร้านในดวงใจแค่ 2 ร้าน และร้านนี้เป็นหนึ่งในนั้น 

น้ำจิ้มเข้นข้นมาก ไม่กั๊กส่วนผสมและเครื่องเทศกันเลย

หมี่กรอบ (140 B)

เมนูเด็ด เมนูแนะนำของ ครัวศรแดง คือมาร้านนี้ต้องสั่งจานนี้นะคะ เดี๋ยวจะถือว่ามาไม่ถึง อย่างที่บอกไปข้างต้นว่า สั่งกันแทบทุกโต๊ะ เอ๊ะ หรือจริง ๆ คิดว่าสั่งกันทุกโต๊ะเลยมากกว่า หมี่กรอบของที่นี่คั่วจนแห้งกรอบทุกคำ ไม่มีเศษเส้นหมี่แข็ง ๆ ทิ่มปาก รสชาติเปรี้ยวหวาน เข้มข้น ถึงวางทิ้งไว้จนเย็น ก็ไม่แข็งหรือนุ่มแหยะ ๆ เหมือนบางร้านค่ะ เลิฟมาก  จานนี้เสิร์ฟพร้อมกุ้ง กระเทียมดอง กุยช่าย และถั่วงอกดิบ

สตูว์ลิ้นหมู (150 B)

เมนูนี้เห็นว่าไปออกรายการ ครัวคุณต๋อย มาด้วยค่ะ  ลิ้นหมูตุ๋นจนเปื่อยนุ่มมากกกกกก กินง่าย ไม่เหนียว รสชาติหวานเค็ม กำลังดี ในจานนี้มีมันฝรั่ง และถั่วลันเตาด้วย

ทอดมันปลากราย (150 B)

ทอดมันปลากรายเนื้อเหนียวหนุบหนับ ชิ้นใหญ่  ที่แปลกใจคือ วางทิ้งไว้นาน เนื้อทอดมันก็ไม่เหี่ยวนะคะ ยังคงความเด้งเหมือนในรูปเลย  ปกติไปกินร้านไหน ตอนยกมาเสิร์ฟคือจะเหี่ยวแล้ว  ปกติบุ๊งเป็นคนไม่ชอบกินทอดมันปลากราย  อันนี้แม่บุ๊งรู้ดี  แต่ร้านนี้บุ๊งกินแหละ คิดดู

ปูไข่นึ่ง (1,000 B)

ปูไข่นึ่งเน้น ๆ บุ๊งเป็นคนแกะปูไม่เป็น  แต่ที่นี่ทำมาแบบให้กินได้ง่าย  ใช้ช้อนส้อมเขี่ยออกมาได้เลย  ส่วนตัวคิดว่าจานนี้นึ่งสุกไปนิดนึง ส่วนน้ำจิ้มซีฟู้ดเป็นแบบตำเอง ไม่ปั่น  นี่คือสิ่งที่ประทับใจมาก น้ำจิ้มซีฟู้ดหอมกระเทียม พริกสด  เดี๋ยวนี้เห็นหลายร้านใช้แบบปั่นหรือซื้อสำเร็จมา รสชาติเลยคล้าย ๆ กันหมด  นี่คือสิ่งที่ทำให้ร้านนี้มีความแตกต่าง

ปลากะพงทอดน้ำปลา (400 B)

จานนี้ทำได้ดีงามมาก  เค้าใช้ปลากะพงเป็นมาทอด  เนื้อปลาก็เลยฟูและสดมาก  กรอบนอกนุ่มใน น้ำปลาที่ใช้ราดก็ปรุงรสมาเป็นเค็มหวาน  น้ำออกข้นนิดนึง ไม่เค็มโดด เอามาราดเนื้อปลาแล้วก็กินกับยำมะม่วงดิบ เปรี้ยวหวาน จานนี้อร่อยสุด ๆ

มัสมั่นเนื้อ (160 B)

มัสมั่นแกงแก้วตา หอมยี่หร่า รสร้อนแรง  กลอนที่เคยเรียนตั้งแต่เด็ก ยังจำได้จวบจนทุกวันนี้  เนื้อวัวในมัสมั่นถูกตุ๋นเป็นเวลาหลายชั่วโมงจนเปื่อยนุ่ม  ถ้าชิ้นไหนติดมันนิดนึงจะนุ่มหน่อย  ส่วนชิ้นที่ไม่มีมันก็จะแข็งนิดนึงตามประสา  ส่วนตัวบุ๊งชอบน้ำแกงมัสมั่นมาก  รสชาติไม่หวานจัดเกินไป มีกลิ่นหอมสมุนไพรและเครื่องเทศเข้มข้น  ตักแกงมัสมั่นมาราดข้าวสวยร้อน ๆ อร่อยมาก

น้ำพริกไข่ปู (160 B)

เมนูนี้มีเฉพาะบางวัน  น้ำพริกไข่ปูใส่กะปิ รสแซ่บ เผ็ด ทำมาแบบไม่หวาน คือรสเปรี้ยว เค็ม หอมกะปิ กินกับขมิ้นขาวอร่อย

แกงจืดลูกรอก (300 B)

แกงจืดลูกรอกที่ทางร้านทำเอง  บุ๊งกินไม่ค่อยเป็นอ่าเมนูนี้ ได้แต่ซดน้ำแกง คล่องคอดี

แกงป่าลูกชิ้นปลากราย (150 B)

แกงป่าหอมรสจัดใช้ได้ รสไม่ค่อยเผ็ดมากนัก ซดน้ำได้เรื่อย ๆ

ไอศกรีมน้อยหน่านมสด (55 B)

ไอศกรีมน้อยหน่าราดนมสด  สดชื่นดี  เวลากินก็เอาช้อนเคาะ ๆ ให้ไอติมผสมกับนม ไม่ค่อยหวานมาก เป็นการปิดท้ายมื้อที่สมบูรณ์

กินหมดเนี่ยแหละ ฟินมากกกกก

Until next time…