Exclusive Dinner กับ 5 Top Chef Thailand และ Lady Butcher มื้อค่ำสุดพิเศษที่เป็นการรวมตัวกันของ เชฟหนุ่ม 5 จาก Top Chef Thailand และเชฟ Oak จากร้าน Lady Butcher โดยใช้วัตถุดิบสุดพรีเมียม เนื้อวัว Angus นำเข้า SB3++ จากทั้งหมด 5 ประเทศ แถมยังได้เจอ Chef Martin Blunos เชฟมิชลิน 2 ดาวจากประเทศอังกฤษอีกด้วย งานนี้บุ๊งได้เห็นลีลาของเชฟแต่ละคนแล้วบอกได้เลยว่าสนุกสนานมาก เชฟทุกคนมีความสามารถในการปรุงอาหาร ต่างคนต่างสไตล์จริง ๆ
Lady Butcher
198/889-890 Bang Bua Thong, Nonthaburi 11110
Tel. +6699 646 9365
https://www.facebook.com/LadyButcher.bangbuathong/
Lady Butcher (ร้านเลดี้ บุทเชอร์) จัดงาน Top Chef Thailand Beef Battle ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 โดยรายได้ส่วนหนึ่งจะถูกนำไปบริจาคเข้ามูลนิธิโสสะ และสถานสงเคราะห์เด็กอ่อนปากเกร็ด จากชื่อร้านและชื่องานก็ชัดเจนว่าวัตถุดิบหลักที่นำมาใช้ในการปรุงอาหารคือ เนื้อวัว Angus เกรดพรีเมียม SB3++ นำเข้าจากทั้งหมด 5 ประเทศ (สเปน, เยอรมัน, ไอซ์แลนด์, สก็อตแลนด์ และออสเตรเลีย) โดยร้าน Lady Butcher
Top Chef Thailand Beef Battle
งานนี้ถือว่าพิเศษมากกกก เพราะน้อยครั้งมากที่เราจะมีโอกาสได้นั่งกินอาหารฝีมือ Top Chef Thailand ทั้งหมดในคราวเดียวถึง 5 คนด้วยกัน นอกจากนี้ยังมีเชฟโอ๊ค ซึ่งเป็น Head Chef ของร้าน Lady Butcher มาทำอาหารคอร์สที่ 6 ทำให้มื้อค่ำครั้งนี้มีทั้งหมด 6 คอร์ส จากเชฟ 6 ท่าน มาดูกันดีกว่ามีเชฟท่านไหนบ้าง
ในรูปนี้ขาด เชฟกิ๊ก
คนนี้คือ Chef Martin Blunos (2 Michelin Star Chef)
Top Chef Thailand Beef Battle ครั้งที่ 2 จัดแค่ 2 วันเท่านั้นคือวันที่ 29-30 มีนาคม 2018 บุ๊งไปวันที่ 30 วันเดียวกับทีมจากร้าน Copper International Buffet แชะ ๆ ๆ ๆ กันสักหน่อย
พี่นัท เจ้าของร้าน Lady Butcher กล่าวเปิดงาน โดยมีน้องแบม พิธีกรจากรายการ Top Chef Thailand มาเป็น MC ให้กับงานนี้ หลังจากเชฟแนะนำตัวเรียบร้อย ก็เริ่มปรุงอาหารสำหรับเสิร์ฟทั้งหมด 6 คอร์ส ได้แก่
- Australia Beef Carpaccio Thai Crispy Plumage Sauce by Chef Huto
- Black Dragon by Chef Gig
- Blanquette de veau by Chef Ton
- The Robust Breeze By Chef Pong
- Irish Prime Ribs by Chef Bus
- Strawberry Red Wine, Black Ice Cream by Chef Oak
Top Chef Battle Menu
คอร์สแรกโดยเชฟฮูโต๋ เป็น appetizer สไตล์อาหารไทยแต่ใช้เนื้อนำเข้าจาก ออสเตรเลีย ทำมา 3 แบบ 3 สไตล์ในจานเดียว อาหารเรียกน้ำย่อยจานนี้เชฟบอกว่าให้กินควบคู่กับ sparkling wine ที่ใส่มะยงชิดแกะเป็นดอกจำปี
เชฟฮูโต๋บอกว่าให้เริ่มจากคำกลางคำแรกชื่อ มะยงชิดเมี่ยงดาหลา มีรสเหมือนเมี่ยงคำทานคู่กับมะยงชิดออกรสหวานจากธรรมชาติ ตามด้วยคำขวามือคือ ทาร์ทาร์หนีบเนื้อ แผ่นขนมเบื้องจิ๋วไส้เนื้อ tartare เนื้อวัวแบบดิบปรุงรส จบด้วยคำสุดท้ายด้านซ้ายมือ รังไรฆอและ ทำคล้ายขนมรังไร แต่เป็นอาหารคาว ด้านล่างคือใบชะพลูชุบแป้งทอดกรอบ ด้านบนคือเนื้อวัวออสเตรเลีย ราดด้วยแกงรสเข้มข้น
คอร์สที่ 2 โดยเชฟกิ๊ก จากร้านเลิศทิพย์ เชฟผู้โดดเด่นมีฝีมือในการทำอาหารจีน มาเสิร์ฟเมนูที่สองเป็นซุปเนื้อเข้มข้น เสิร์ฟแบบชาจีนโบราณ โรยด้านบนด้วยดอกไม้ที่สามารถกินได้ ในจานมีเนื้อวัวหมาล่า ออกรสเผ็ดเล็กน้อย และหมั่นโถวทอด บุ๊งชอบไอเดียเอาหมั่นโถวทอดมากินคู่กับซุปแบบนี้ เข้ากันได้ดีทีเดียว
จานที่ 3 โดยเชฟต้น ชื่อเมนูว่า Blanquette de veau เนื้อวัวสุกแบบ medium rare ด้านบนห่มด้วยแผ่นสีขาวที่ทำจากหัวหอม ทำให้เป็นลักษณะเหมือนผ้าห่ม เพิ่มความกรุบกรอบด้วยเนยเกล็ดสีน้ำตาลที่เชฟปรุงจนเกือบไหม้มีกรอบแต่ไม่ขม ในจานมีเห็ดหลากชนิดที่มีหลากรสชาติ บางชิ้นมีกลิ่นธรรมชาติของเห็ด บางชิ้นมีความเปรี้ยวจากการดอง (preserved)
คอร์สที่ 4 โดยเชฟโป้ง ชื่อเมนูว่า The Robust Breeze เนื้อวัวปรุงสุกขนาด medium rare ผิวนอกพอกด้วย charcoal สีดำ ที่เชฟปรุงรสมาเรียบร้อย เนื้อจานนี้กินได้แบบไม่ต้องเพิ่มเครื่องปรุงใด ๆ รสชาติกำลังดีมากมายนัก ในจานมี artichoke มาให้กินคู่กัน พร้อมกับ ปาปาดัม แผ่นแป้งของอินเดียที่นำมาผิงไฟจนกรอบ ออกรสเค็มนิด ๆ โฟมสีขาวที่เชฟบีบมาในจานมีรสเปรี้ยวนำ จานนี้โดดเด่นมาก ได้ความ Robust Breeze ตามชื่อเมนูที่เชฟตั้งเลย ส่วนตัวบุ๊งชอบจานนี้ที่สุด เชฟโป้งทำได้ดีจริง ๆ ค่ะ
จานถัดมารังสรรค์โดยเชฟบัส ชื่อ Irish Prime Ribs เนื้อพรามริบส์ ปรุง two ways สองแบบ สองสไตล์ แบบแรกคือนำไปตุ๋นจนเปื่อยนุ่ม ต้องบอกว่านุ่มมากกกก อีกแบบคือ เนื้อย่างน้ำปลาหวานได้รสชาติเนื้อเน้น ๆ เนื้อมีความนุ่มและหอม ไม่เหนียวเลยแม้แต่น้อย เสิร์ฟพร้อมมะม่วงดิบดอง ถั่วพลู ถั่วแขกผัดเนย และถั่วพลูที่นำไปบดทำเป็น puree
ถ้วยนี้เป็น pre-dessert เป็นมะม่วงดิบแช่อิ่ม เสิร์ฟพร้อมเศษเนื้อที่นำไปอบจนกรอบทั้งชิ้น ถ้วยนี้อร่อยมากกกกกกกกก ก ไก่ ล้านตัว
Dessert
ปิดท้ายมื้อได้ขนมหวานจานสุดท้าย โดยเชฟโอ๊ค Strawberry Red Wine, Black Ice Cream ไอศกรีมงาดำหอมนวล ไม่หวานมาก เสิร์ฟพร้อมสตรอเบอร์รี่แช่ในไวน์แดง พร้อม Raspberry Tuile แผ่นราสพเบอร์รี่อบกรอบ
บุ๊งชอบภาพนี้ แสดงถึงการสามัคคีของ Top Chef Thailand ทุกคน งานนี้ถึงชื่อจะเป็น battle แต่จริง ๆ คือการร่วมมือกันของเชฟทั้ง 6 คนมากกว่า ทุกคนเต็มใจและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ช่วยกันจัดจาน เตรียมงาน ฯลฯ งานนี้จึงสำเร็จได้ด้วยดี
หากใครสนใจงานดี ๆ เริด ๆ แบบนี้ ติดตาม FB ของร้านได้ที่ https://www.facebook.com/LadyButcher.bangbuathong/
Until next time…