+++ Hokkaido Trip: เที่ยวฮอกไกโดกับบุ๊ง Close To Heaven #1 +++

ถึงเวลาขึ้นเครื่องแย้ววววววววว

บินไปฮอกไกโดใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง

มีหนังให้เลือกดูเพียบ  เอาสาย USB ไปชาร์จมือถือด้วย แฮร่

เมื่อไปถึงสนามบิน New Chitose ก็ผ่านการตรวจ ตม.

กรอกเอกสารให้ครบ หน้า หลัง เซ็นให้เรียบร้อย

เข้าประเทศปุ๊บ  ก็ใช้ net sim ค่ะ  คราวนี้ไม่ได้พก pocket wifi ไป

ซื้อเป็นเน็ทซิม ใช้ได้ 7 วัน แบบอัดเต็ม max ไปเลย

จากนั้นนั่งรถไปที่ Sapporo ซึ่งเป็นเมืองหลักของเกาะฮอกไกโด

ทริปนี้มีเพื่อนคนญี่ปุ่นชื่อ Mizuki มาช่วยพาทัวร์

วันแรกก็ไปเดินดูเมืองซัปโปโรกันค่ะ  มีอะไรน่าสนใจหลายอย่าง

เช่น Seicomart เป็นร้านสะดวกซื้อที่จะมีเฉพาะที่ฮอกไกโดเท่านั้น

แอบกรี๊ซเมื่อเจอดอกทิวลิป  ดอกไม้ที่ชอบที่สุด  สีแดงสดใสได้ใจมากกกก

บุ๊งไปช่วงต้นเดือนพฤษภาคม

อากาศกำลังดี๊ดี  ตอนเช้ากับกลางคืนจะหนาวประมาณ 9-10 C

แต่ช่วงกลางวันก็จะอุ่นขึ้นหน่อยประมาณ 17-19 C

ใครไปช่วงนี้ เอาเสื้อโค้ทไปด้วยนะคะ

ช่วงกลางวันใช้วิธีเดินเท้าทัวร์เมืองค่ะ

ที่เห็นตึกสีแดงนี้เป็นตึกที่ทำการรัฐบาลเก่าของฮอกไกโด

ตอนนี้ทำเป็นพิพิธภัณฑ์

ส่วนอันนี้เป็นตึกศาลาว่าการใหม่ของฮอกไกโด

บริเวณนี้เค้าจัดเห็นสวนสาธารณะ

มีทั้งต้นซากุระและต้นบ๊วย

บัตร Starbucks ลายนี้มีขายเฉพาะที่ Hokkaido

เราไปกันที่ Ishiya Chocolate Factory

ร้านขายช็อคโกแลตชื่อดังในซัปโปโรยี่ห้อ Shiroi Koibito

ขนมที่มีชื่อเสียงคือ mille feuille เคลือบด้วยช็อคโกแลต ไวท์ช็อค หรือชาเขียวก็มี

หันไปเห็นตู้ soft cream ในร้าน  ก็จัดมาอย่างด่วนเลย

ไอติมที่ญี่ปุ่นส่วนใหญ่อร่อยทุกร้าน  ร้านนี้ก็เช่นกัน

หอม มัน เนียน นุ่ม อร่อยยยย

ตอนนั่งกินไอติมเห็นคนญี่ปุ่นเข็นหุ่นยนต์ตัวนี้มายืนรอรถ

เลยขอถ่ายรูปสักหน่อย  สอบถามได้ความว่าเป็นหุ่นยนต์ที่ดังมากที่นี่

เอาไว้ใช้งานได้หลายอย่าง  แต่ยังทำความสะอาด ปัด กวาด เช็ด ถูไม่ได้นะคะ

 Sapporo TV Tower

เสาส่งสัญญาณทีวีตั้งตระหง่านอยู่กลางเมือง

มีรถม้าให้นั่งด้วย แต่บุ๊งไม่ได้ใช้บริการ

ในเมืองซัปโปโร  มี tram วิ่งให้บริการรอบเมือง

คล้าย ๆ รถเมล์เมืองไทย  เพียงแต่มีรางวิ่ง

ค่าบริการอยู่ที่ 170 เยน

มื้อเที่ยงไปกินกันที่ตลาดปลาเมืองซัปโปโร

ตลาดปลาที่นี่ไม่ใหญ่และไม่คึกคักเท่าในโตเกียว

แต่อาหารที่วางขายนี่น่าสนใจหลายอย่าง

เท่าที่สังเกตคือแน่นอนมี “ปู” ทั้ง King crabs และ Queen crabs

และที่เห็นขายเยอะอีกอย่างคือ เมลอน

มื้อเที่ยงเราฝากท้องกันที่ร้านนี้เลยค่ะ  ร้าน Ohiso

ได้ยินมาว่าร้านนี้มีชื่อเสียงมาก  และมีคนไทยมากินหลายคน

เค้ามีภาษาไทยเขียนไว้หน้าร้านด้วย

ชาร้อนบริการฟรี

ชุดที่บุ๊งสั่งค่ะ  มีเพิ่ม Hotate (หอยเชลล์) ด้วยเพราะบุ๊งชอบกินมากกกก

ข้าวหน้าปูทาราบะ แซลมอนซาชิมิ ไข่ปลาแซลมอน ไข่หอยเม่นและหอยเชลล์

ชามใหญ่ 3,880 + 500 = 4,380 เยน

Uni อร่อยที่สุดในสามโลก  เนื้อเนียน นุ่ม หอม หวาน อร่อยยยย

คือถ้าใครได้ไปเที่ยว  บุ๊งแนะนำว่ากินไข่หอยเม่นให้ได้นะคะ ฟินสุด ๆ

ที่เริดอีกอย่างคือไข่ปลาแซลมอน  (Ikura)  ไม่คาวเลยแม้แต่น้อย

ปกติบุ๊งไม่ค่อยกินไข่ปลาแซลมอนที่เมืองไทยเท่าไหร่ เพราะเคยกินแล้วกลิ่นคาว

แต่ที่ญี่ปุ่นนี่ กินเข้าไป ๆ ๆ ๆ ๆ อร่อยมากกกก

เจ้าของร้านให้กินเมนูนี้ฟรีแหละ ใจดี๊ใจดี  เป็นหน่อไม้ฝรั่งย่างโรยเกลือ

Asparagus หน่อไม้ฝรั่งที่ฮอกไกโดหวานมากกกกก

กินเสร็จอิ่มอร่อยก็เดินทางไปเช็คอินที่โรงแรม

ระหว่างทางผ่านตึกนี้เป็น  Musical Theatre  สำหรับงานโชว์ แสดงละครเวที broadway ต่าง ๆ

เอ็นทรีแรกนี้ขอหยุดเพียงเท่านี้ก่อนนะคะ

เดี๋ยวเอ็นทรีหน้าจะพาไปดูโรงแรมที่พักคืนแรกกัน

พร้อมอาหารเช้าสุดอลัง

ขอบคุณที่ติดตามค่ะ