Centara Grand Beach Resort & Villas Hua Hin ห้องพักสไตล์โคโลเนียล

Centara Grand Beach Resort & Villas Hua Hin ห้องพักสไตล์โคโลเนียล ภายในรีสอร์ทที่มีพื้นที่กว้างขวางและเงียบสงบ เหมาะแก่การมาพักผ่อน ริมทะเลที่หัวหินอย่างแท้จริง

รีวิว ที่พัก #15: Centara Grand Beach Resort & Villas Hua Hin

รีวิว บุฟเฟ่ต์ #122: Breakfast @ Centara Grand Hua Hin

Centara Grand Beach Resort & Villas Hua Hin

1 Damnernkasem Road, Hua Hin, Hua Hin District, Prachuap Khiri Khan 77110 THAILAND

Tel. +66 32 512 021

https://www.centarahotelsresorts.com/centaragrand/chbr/

โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์บีชรีสอร์ทและวิลลา หัวหิน เป็นที่พักในตัวเมืองหัวหิน ลักษณะแบบรีสอร์ท พื้นที่กว้างขวางแบบ landscape ไม่ได้เป็นตึกโรงแรมสูงหลายสิบชั้น Location ของโรงแรมนี้สะดวกมากสำหรับแขกที่มาพัก เพราะตั้งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟ ตลาดฉัตรชัย และร้านอาหารอีกมากมาย แบบเรียกได้ว่า เดินออกจากโรงแรมปุ๊บ ก็มีร้านค้า ร้านอาหารเพียบ

 สิ่งที่ทำให้บุ๊งหลงรัก Centara Grand Beach Resort & Villas Hua Hin ก็คือ ความเงียบสงบ และ สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ภายในรีสอร์ท  เวลาบุ๊งพาลูกไปเที่ยวทะเล หรือ ต่างจังหวัด  โรงแรมที่มีทุกอย่างพร้อม ทั้ง อาหาร ขนม สระว่ายน้ำ สปา fitness และ kids’ club เป็นอะไรที่ตอบโจทย์สุด ๆ ซึ่งที่นี่มีครบทุกอย่างที่กล่าวมาข้างต้น  ตอนนี้ Otto และ Owen รู้ว่า จะพาไปพักที่นี่ ทั้งสองคนร้อง เย้! ดีใจกันมากมาย

Price

บุ๊งเอาราคาห้องพักเรทกลางมาฝากแบบทุก room type เลยค่ะ เผื่อไว้เป็นตัวเลือกในการตัดสินใจ  ซึ่งราคาห้องพักอาจจะมีเปลี่ยนแปลงในแต่ละช่วงเวลาของปี ขึ้นอยู่กับว่าเป็นช่วง high หรือ low season  ห้องพักที่เซ็นทาราแกรนด์บีชรีสอร์ทและวิลลา หัวหิน สามารถแบ่งตามชนิดของห้องได้ ดังนี้ 

• Deluxe ราคาเริ่มต้น 5,500++ บาท
• Premium deluxe ราคาเริ่มต้น 6,500++ บาท
• Suite ราคาเริ่มต้น 9,500++ บาท *** ห้องที่บุ๊งพักครั้งนี้เป็นแบบ Junior Suite ***

ถ้าเป็นห้องพักแบบวิลล่า (บ้านเป็นหลัง) แบ่งดังนี้ 

• Deluxe Spa Villa ราคาเริ่มต้น 9,900++ บาท
• Deluxe Pool Villa ราคาเริ่มต้น 10,500++ บาท
• Premium Deluxe Pool Villa ราคาเริ่มต้น 11,000++ บาท บุ๊งเคยทำรีวิวไว้แล้ว ที่นี่

Junior Suite

ห้องพักแบบจูเนียร์สวีท จะไม่มีหมายเลขห้อง คือจริง ๆ ก็มีแหละ แต่ว่าเค้าจะใส่เป็นป้ายชื่อห้องแทน  เช่น ห้องนี้ชื่อ Lotus Suite  สิ่งที่มาคู่กับห้องพักแบบ suite ขึ้นไปก็คือ “The Club” benefits เป็น club lounge ที่เราสามารถไปใช้บริการได้ฟรีตลอดทั้งวัน  ตั้งแต่อาหารเช้าไปจนถึง snack มื้อค่ำก่อนนอน  ก่อนจะไปถึงตรงนั้น  เรามาดูห้องพักก่อนดีกว่า

ห้องแบบ Junior Suite มีโซนเตียงนอน โซฟาสำหรับนั่งพักผ่อน ห้องน้ำ อ่างอาบน้ำ shower ระเบียง ห้องแต่งตัว

การตกแต่งเป็นแบบสไตล์ colonial มีความเป็นไทยแต่โมเดิร์น  เตียงนอนสูงมาก  โอเว่นบอกว่านุ่ม นอนกัน 3 คนแม่ลูก  แต่บุ๊งมีขอเตียงเสริมมาให้ลูกนอนเพิ่ม 1 เตียง  บุ๊งชอบโต๊ะทำงานแบบนี้ค่ะ  ปกติไม่ค่อยเห็นที่ไหนวางโต๊ะทำงานไว้กลางห้อง  มาเห็นที่นี่แหละ  สวยดีค่ะ

โซนนั่งพักผ่อน

Welcome fruits เป็นผลไม้ไทยตามฤดูกาล

มีน้ำส้มให้ด้วย สองหนุ่มชอบมากกกก

มีมุม ชา กาแฟ กาน้ำร้อน และเครื่องชงกาแฟแบบแคปซูล

ห้องน้ำก็ตกแต่งสไตล์โคโลเนียล สีโทนขาวดำ มีทั้งอ่างอาบน้ำ และ shower 

Amenities พร้อม ครบชุด ใช้ผลิตภัณฑ์ของ Panpuri

เสื้อคลุมและกระเป๋าสำหรับใส่ของไปเดินชายหาด หรือ ไปที่สระว่ายน้ำ  กระเป๋าใบนี้ให้ยืมใช้ในช่วงเวลาที่พักที่รีสอร์ท  แต่ถ้าสนใจอยากซื้อกลับบ้าน ก็มีขายค่ะ

ชอบระเบียง เป็นแบบ garden view เห็นสวน ต้นไม้ เขียวชอุ่ม

The Club benefits

ห้องพักแบบ suite จะได้รับสิทธิเข้า The Club ซึ่งเป็นเลาจน์สำหรับนั่งพักผ่อน ชิล อ่านหนังสือ หรืออยากนั่งทำอะไรก็ได้  ที่นี่มีอาหารเช้า อาหารว่าง เสิร์ฟตลอดวัน ซึ่งอาหารจะเปลี่ยนไปตามช่วงเวลา  เช่น อาหารเช้า แขกสามารถมาทานอาหารที่นี่ก็ได้ หรือจะไปนั่งทานที่ Railway Restaurant ก็ได้  ช่วงบ่ายมี afternoon tea ช่วงเย็น มี evening cocktail ทุกอย่างเป็นแบบ buffet คือสามารถตักทานเท่าไหร่ก็ได้

Afternoon Tea

ขนมและน้ำชายามบ่าย เสิร์ฟเวลา 15.00 – 16.30 น. ของทุกวัน มีเครื่องดื่มน้ำเปล่า น้ำผลไม้ ชา กาแฟ น้ำอัดลม เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ต่าง ๆ  ส่วนขนมก็เป็นแนวขนมชิ้นเล็ก ๆ เหมือนเวลาไปกิน afternoon tea เมนูในแต่ละวันจะไม่เหมือนกัน

ทาร์ตผลไม้อร่อย แป้งทาร์ตกรอบ ครีมคัสตาร์ดไม่หวานมาก กินกับเบอร์รี่เข้ากันสุด ๆ

Clotted cream และแยมโฮมเมด เอาไว้ทานคู่กับ scones

Plain scones

Raisin scones และ bacon scones

คุกกี้แบบต่าง ๆ ขอบอกว่าคุกกี้มะพร้าวอร่อยมาก ห้ามพลาด

ผลไม้สด

เค้กชิ้นเล็ก ๆ ขนาดพอเหมาะ

จานนี้ของบุ๊งเอง อิอิ

นี่ก็ใช่

 เครื่องดื่ม ชา กาแฟ สั่งได้ทั้งแบบร้อนและเย็น มีเครื่องดื่ม mocktail ด้วย

Canape & cocktail

อาหารว่างก่อนมื้อค่ำ เสิร์ฟช่วงเวลา 17.30 – 19.00 น. เป็นช่วงที่บุ๊งชอบมากกกก มีเสิร์ฟเครื่องดื่มทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น เบียร์ ไวน์ sparkling wine เครื่องดื่ม cocktails หรือ mocktail  ส่วนอาหารก็จะเป็นอาหารว่างแบบ appetizer เช่น mini burger แซนวิช อาหารว่างแบบไทย ถั่วประเภทต่าง ๆ อันนี้ชอบมากเพราะมี pecans ของโปรดด้วย ผักสดพร้อม dipping sauce และ antipasti ซึ่งบุ๊งก็ชอบมากเช่นกัน โดยเฉพาะมะกอกดำบด และพริกหวานย่าง

ถั่วพีแคนของโปรด

ปอเปี๊ยะทอดอร่อยแหละ กรอบ หอม กินเพลินมาก

สีดำที่เห็นคือ มะกอกดำบด อร่อย

Swimming pools

สระว่ายน้ำฝั่งที่บุ๊งพักมี 3 สระ  สะดวกหรือชอบสระไหนก็ไปว่ายที่สระนั้นได้เลยค่ะ  ส่วนตัวบุ๊งชอบแบบ private ก็เลยไปว่ายตรงสระที่อยู่ใกล้ห้องพัก

Spa Cenvaree

สปาเซ็นวารี  เป็นสปาที่มีอยู่ในทุกโรงแรม Centara Grand ที่นี่ก็เช่นกัน  Spa Cenvaree ตั้งอยู่ใกล้กับ kids’ club เลยค่ะ สะดวกมาก ช่วงที่บุ๊งไปทำสปา เด็ก ๆ ก็นั่งเล่นอยู่ใน kids’ club

เมื่อเดินเข้ามาถึง  ก็จะได้รับ welcome drink ก่อนเลย  อ้อ! แนะนำว่าควรจองสปาก่อนเข้ามารับบริการโดยโทรมาจองจากที่ห้องพักก็ได้ค่ะ  Welcome drink เป็นน้ำอัญชัน พร้อมหลอดฉีดใส่น้ำมะนาวให้เราบีบมะนาวใส่เอง น้ำอัญชันจะกลายเป็นสีม่วง

ทางสปาจะมีเอกสารให้กรอก พร้อมให้เราตอบคำถามว่า อยากให้นวดเน้นตรงไหนมั้ย หรือหลีกเลี่ยงตรงไหนเป็นพิเศษ ก็บอกได้ค่ะ

บุ๊งเลือกทำเป็น Aromatherapy หรือนวดน้ำมัน หรือที่เรียกว่านวดอโรมานั่นเอง 60 mins ราคา 2,000 B++  ที่เลือกแบบนี้เพราะต้องการผ่อนคลาย  ถ้ารับ treatment แบบอะโรมาเธอราพี  เค้าจะให้เราเลือกน้ำมันที่ชอบ  บุ๊งเลือกแบบ uplifting

เมื่อพร้อมแล้ว therapist ที่ดูแลเราจะพาไปเปลี่ยนชุดที่ห้อง locker แยกชาย หญิง  จากนั้นก็ถอดชุดออกทั้งหมด เปลี่ยนเป็นกางเกงในแบบใช้แล้วทิ้งที่ทางสปาเตรียมไว้ ใส่เสื้อคลุมแล้วเดินออกมาพบกับ therapist ด้านนอก

ห้องทำ treatment จะมีเตียง  พร้อมหมอนรองแบบนอนหน้าคว่ำได้  มีการปรับอุณหภูมิห้องให้พอเหมาะสำหรับทำสปา

ก่อนเริ่มทรีทเมนท์ก็จะทำการล้าง ขัดเท้าให้เราก่อน โดยใช้น้ำสะเดาเพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และใช้เกลือผสมสะเดาขัดเท้า  เมื่อเสร็จเรียบร้อย ก็ให้ถอดเสื้อคลุมออกแล้วนอนคว่ำหน้า เริ่มทำการนวดอะโรมาจนครบ 60 นาที (ตามโปรแกรมที่เลือกไว้)

หลังจากนวดอะโรมาเสร็จ เค้าจะเสิร์ฟชามะตูมอุ่น ๆ และคุกกี้ให้ทานค่ะ

Camp Safari

Kids’ club ที่นี่ใช้ชื่อว่า Camp Safari แน่นอนว่า Otto & Owen ชอบที่นี่มาก มานั่งขลุกอยู่ทั้งวัน  ด้านในมี activities ให้เด็กทำหลายอย่าง  และมีบ่อบอลพร้อมสไลเดอร์ เครื่องเล่น Play Station 4 มุมทำงานศิลปะ และอื่น ๆ อีกมากมาย

Breakfast อาหารเช้า

สำหรับอาหารเช้า บุ๊งสามารถพาลูกไปกินได้ทั้งที่ The Club และ ห้องอาหาร Railway Restaurant แต่บุ๊งเลือกไปกินที่ Railway Restaurant เพราะไลน์อาหารเยอะกว่า และอยากถ่ายบุฟเฟ่ต์อาหารเช้าที่แขกทุกคนที่มาพักที่โรงแรม สามารถเข้าไปทานได้ค่ะ

ตามชื่อห้องอาหาร การตกแต่งเป็นแบบสถานีรถไฟสมัยก่อน

เบคอน

Egg station 

มีเมนูไข่ต่าง ๆ หลายอย่าง ทั้งไข่ดาวแบบ sunny side up หรือไข่แดงไม่สุก,  ไข่ดาวแบบไข่แดงสุก,  omelette เลือกเครื่องได้ตามชอบ, scrambled eggs, ไข่ต้ม, ไข่ลวก, poached eggs, และเมนูไข่พิเศษประจำวัน  ซึ่งวันที่บุ๊งไปกิน วันแรกเป็น Eggs Benedict วันที่สองเป็นไข่ลูกเขย

ข้าวต้มหมู

ก๋วยเตี๋ยว ลูกชิ้นเนื้อ ลูกชิ้นปลา เส้นปลา เต้าหู้ปลา

มะเขือเทศเชอรี่ในน้ำส้ม balsamic ปกติบุ๊งไม่ค่อยกินมะเขือเทศเชอรี่ แต่ที่นี่ขอแนะนำว่าให้ลองค่ะ  มะเขือหวาน อร่อย หอมกลิ่นน้ำส้มบัลซามิค

Baked beans

ข้าวโอ๊ตแบบร้อน

ไส้กรอกมีแบบ หมูและไก่

Meatloaf ผัดกับหอมใหญ่ อร่อย

กาแฟ เราสามารถกดเองจากเครื่องนี้ก็ได้ หรือสั่งจากพนักงานก็ได้ค่ะ

ชาร้อน พร้อมมะนาวและไซรัป

ขนมปังแผ่นสำหรับปิ้ง

Bread rolls ขนมปังโรลประเภทต่าง ๆ จากครัวเบเกอรี่ของโรงแรม ขนมปังอร่อยค่ะ ส่วนตัวชอบกินอยู่แล้ว มาที่นี่กินขนมปังไปเยอะมาก อิอิ

Ciabatta อร่อย

Muffins

โดนัท

Pound cakes แบบไม่มีครีม เหมาะสำหรับกินเป็นอาหารเช้า

เค้กกล้วยหอม

Bread & butter pudding

French baguette และขนมปังใส่เมล็ดธัญพืช งา ขนมปังไรย์ ฯลฯ

ใช้เนยดีงาม

Pancakes, waffles, และ French toasts

Croissants อร่อยมากกกก

Chocolate danish

Pretzels

แดนิชผลไม้ สอดไส้ด้วยคัสตาร์ดครีม ไม่หวานมาก

ซอสสตรอเบอร์รี่ น้ำเชื่อมเมเปิ้ล น้ำผึ้ง ครีม สำหรับทานคู่กับ แพนเค้ก วาฟเฟิล

Smoked salmon

Marinated sea bass ปลากะพงหมัก 

Cured meat แบบต่าง ๆ

ชีสมีประมาณ 2-3 อย่างให้เลือก เช่น cheddar cheese, Emmental cheese, Gouda cheese, etc.

อาหารญี่ปุ่นก็มี เป็นซูชิ

Smoothies ทำจากผลไม้สด ๆ นำมาปั่นตามที่เราต้องการ มุมนี้โอเว่นชอบมาก โดยเฉพาะน้ำแก้วมังกรปั่นกับแคนตาลูป

Cereal ซีเรียล

Muesli แช่ในนมจนนิ่ม  อันนี้บุ๊งชอบกิน ราดน้ำผึ้งนิดนึง อร่อย

สลัดผักสด

ผลไม้สดตามฤดูกาล ช่วงนี้ก็เป็น เงาะ มังคุด ส้ม

Homemade jam แยมโฮมเมด ขอบอกว่าอร่อยมาก โดยเฉพาะแยมมะพร้าว ซึ่งเป็น signature ของที่นี่เลย  แยมแบบอื่นก็อร่อย ส่วนตัวบุ๊งชอบแยมมะพร้าว กับ แยมมะม่วง

แยมมะละกอ

น้ำเต้าหู้แบบออร์แกนิค

นมสด

Infused water น้ำเปล่าใส่สมุนไพร หรือ ผลไม้สด เพิ่มความหอมสดชื่น  บุ๊งชอบ lemon & mint infused water

Asian food มุมอาหารเอเซีย

เป็นจำพวกข้าวสวย ข้าวผัด แกงเขียวหวาน ผัดกะเพรา ผัดผัก ผัดหมี่ ผัดไทย ติ่มซำ ขนมจีบ ซาลาเปา เมนูแต่ละวันก็จะไม่ซ้ำกัน

Honeycomb บุ๊งชอบมากกกกกกกกกกกกกกกกก 

เมนูอาหารที่ตักมากินค่ะ  กินไปเยอะมาก อิอิ

Omelet ตอนแรกดูสีนึกว่าจะแห้ง แต่ปรากฏว่าหั่นออกมาด้านใน juicy ฉ่ำ ไม่สุกมากเกินไป อร่อยค่ะ

ข้าวกะเพราทะเล ไข่ดาว เหยาะพริกน้ำปลาหน่อย ฟิน

มีเบิ้ล

แยมแบบจัดเต็ม  ที่เห็นในภาพคือสิ่งที่ชอบกินล้วน ๆ

Danish

ไปหยิบครัวซองต์หลายรอบเลยค่ะ

เมนูไข่พิเศษประจำวัน  Eggs Benedict

เมนูไข่พิเศษ เช้าอีกวันคือไข่ลูกเขย

ปกติบุ๊งไม่ค่อยกินอาหารเช้า  ดื่มแต่กาแฟดำ  แต่ถ้ามีบุฟเฟ่ต์อาหารเช้าเริด ๆ ก็จะจัดเต็มประมาณนี้

เอ็นทรีถัดไปจะมารีวิว ห้องอาหารต่าง ๆ ที่อยู่ภายในโรงแรมค่ะ

Until next time…